ก่อนหน้านี้ APPDISQUS ได้เคยหยิบเอาเคสรุ่นพี่ที่ได้รับความนืยมเป็นอย่างสูงอย่าง Spigen SPG Neo Hybrid Ex ตัวธรรมดาที่ไม่มีต่อท้ายว่า Slim มารีวิวกันแบบช๊อตต่อช๊อตให้เพื่อนๆ ที่สนใจได้อ่านกันไปแล้ว พร้อมกับข้อสรุปข้อหนึ่งที่เราเห็นว่าเป็นปัญหาที่ทำให้ Spigen SPG Neo Hybrid EX นั้นได้คะแนนไปไม่ถึงจุดที่มันควรจะได้ (จากรูปร่างหน้าตาและประสิทธิภาพในการใช้งาน) โดยปัญหาที่ว่านั้นก็คือเรื่องของแจ๊คหูฟังที่ในตัวเก่ารุ่นพี่ไม่สามารถเสียบแจ๊คหูฟังอื่นๆ นอกจากหูฟังที่แถมมากับ Apple ได้ โดยหากต้องการเสียบหูฟังอื่นๆ นั้น คุณจะต้องซื้อข้อต่อรูปตัวแอลมาเพิ่มเพื่อเสริมให้ขั้วหูฟังยาวพอที่จะเสียบเข้าไปในตัวเครื่องผ่านเคสได้อย่างแนบสนิท
มาครั้งนี้ Spigen SPG Neo Hybrid EX – Slim Edition รุ่นน้องจากพี่ใหญ่ตัวก่อนหน้าทำการบ้านมาอย่างดีด้วยการหมายจะกำจัดข้อเสียจุดใหญ่ของตนคือเรื่องความหนาออกไป และเมื่อ APPDISQUS ได้รับความอนุเคราะห์จาก www.12case.com (One Two Case) โดยการส่งมอบเจ้า Slim ตัวใหม่นี้มาลอง เราก็ไม่พลาดที่จะนำมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้ฟังกันตามสไตล์เช่นเคย
[box_tip]1,300 บาทแลกมากับอะไรบ้าง[/box_tip]
เหมือนเช่นเคย Spigen SPG Neo Hybrid EX – Slim ยังคงมาพร้อมกับอุปกรณ์พื้นฐานภายในกล่องเช่นเดียวกับรุ่นพี่ก่อนหน้านี้ทุกประกาศ ซึ่งทั้งหมดที่ให้มานั้นทำให้เคสตัวนี้เป็นเคสที่ครอบคลุมการปกป้องในทุกระดับจริงๆ เรียกได้ว่าเสียเงินซื้อเจ้า SPG Neo Hybrid EX – Slim เพียงอย่างเดียว คุณได้ทุกอย่างที่จะช่วยปกป้อง iPhone 5 ของคุณจากศึกที่กำลังจะพบเจอได้แบบหัวจรดเท้าเลย โดยรายการของที่แถมมาในกล่องนั้นมีดังต่อไปนี้
– เคส Neo Hybrid EX Slim จำนวน 1 เซ็ต ประกอบด้วยเคสส่วนในซึ่งทำมาจากยาง และเคสส่วนนอกซึ่งทำมาจากโพลีคาร์บอเนตโดยมีสีสันแตกต่างกันไปตามที่เราเลือก วัสดุที่ใช้ทำนั้นให้ความรู้สึกแข็งหน่อยคล้ายๆ โลหะแต่ยังยืดหยุ่นได้
– แผ่นฟิล์มติดหน้าเครื่องยี่ห้อ Steinheil
– แผ่นฟิล์มติดหลังเครื่อง
– ผ้าเช็ดไมโครไฟเบอร์
– ปุ่มโฮม 3 ปุ่ม มีสีขาว ดำ และส้ม
อีกครั้งที่ SPG ได้ใจผมไปจากของแถมที่แถมมาให้ ซึ่งเมื่อเทียบกับเคสราคาประมาณเดียวกันนี้ในยี่ห้ออื่นๆ บางยี่ห้ออาจต้องยอมรับว่าไม่ได้มากเท่านี้จริงๆ ครับ คะแนนตรงจุดนี้เคยได้มากยังไงในรุ่นพี่ มารุ่นน้องเวอร์ชั่น Slim ก็ยังคงได้มาก ได้ใจไปเช่นเดิม
[box_tip]หลักการเดิม สองชั้นกันกระแทก![/box_tip]
Spigen SPG Neo Hybrid EX – Slim ยังคงหลักการเดิมที่เคยเป็นข้อดีของตัวรุ่นพี่ และเป็นเสน่ห์ของเคสรุ่น Neo Hybrid EX จาก SPG เอาไว้ นั่นก็คือการเลือกทำเคสสองชั้นเพื่อป้องกันเครื่องเราจากสิ่งที่อาจมาทำอันตรายตัวเครื่องให้ได้มากที่สุด โดยชั้นในนั้นเป็นยางรองสีขาว (หากเลือกสีชั้นนอกเป็นสีอื่น ยางรองชั้นในอาจเป็นสีดำได้ครับ) และชั้นนอกเป็นสีตามที่เราเลือก (ในกรณีของผมเป็นสีชมพูโลหะ Metal Pink เลือกเองด้วยความภาคภูมิใจ ฮ่าๆๆ)
ประโยชน์ของยางรองชั้นในนั้นนอกจากจะเป็นตัวป้องกันการขบกัดของเคสชั้นนอกกับขอบเครื่องเราแล้ว มันยังช่วยลดการกระแทกที่อาจเกิดขึ้นกับตัวเครื่องหากมีการตกกระทบได้อีกด้วยครับ เนื่องจากวัสดุที่ใช้มีลักษณะคล้ายยางที่มีความยืดหยุ่นสูง จึงทำให้มีความสามารถในการลดแรงกระทบจากการตกกระแทกได้ (แม้จะไม่เคยลอง Drop Test พิสูจน์ก็ตามครับ ใจยังไม่ถึงพอ ^^)
[box_tip]สวยไม่สร่าง จากรุ่นสู่รุ่น[/box_tip]
ดีเอ็นเอความหน้าตาดีของ Spigen SPG Neo Hybrid EX นั้นยังคงส่งต่อมาให้ Neo Hybrid EX – Slim ได้อย่างไม่สร่างหายไปไหนเลยทีเดียวครับ หน้าตาของทั้งคู่นั้นยังคงเหมือนกันราวกับพี่น้องฝาแฝด ใครที่เคยชอบดีไซน์ของพี่ใหญ่ที่ถือได้ว่าเป็นเสน่ห์ประจำรุ่นเลย มาน้องเล็กตัวนี้ เสน่ห์ต่างๆ เหล่านั้นก็ไม่ได้จางหายไปแม้แต่น้อย และเผลอๆ คุณอาจจะชอบมากกว่าเก่าเพราะความบางขึ้น เบาขึ้นของ Neo Hybrid EX – Slim ด้วยครับ
[box_tip]บางลง เบาลง โชว์เรือนร่างมากยิ่งขึ้น[/box_tip]
Spigen SPG Neo Hybrid Ex – Slim มาพร้อมกับจุดเด่นตามชื่อรุ่นที่ต่อท้ายมาเลย นั่นก็คือความบางที่ทำให้เราได้โชว์เรือนร่างของเจ้า iPhone 5 ของเราได้มากยิ่งขึ้น ไม่เหมือนอย่างตัวเก่าที่ออกแนว “รถถัง” เล็กๆ โดยความบางของตัวใหม่นี้นั้นเห็นได้อย่างชัดเจนเมื่อนำไปเทียบกับตัวเก่าที่เราเคยรีวิวไว้ แต่เผื่อใครไม่เชื่อ ผมได้ลองถ่ายรูปของ iPhone 5 สองเครื่องโดยเครื่องหนึ่งใส่เคสตัวเก่าที่เคยรีวิวไป (สีเงิน) และอีกเครื่องใส่เคสตัวใหม่เวอร์ชั่น Slim นี้ที่ได้รับจาก www.12case.com (สีชมพูโลหะ – Metal Pink) ซึ่งเพื่อนๆ สามารถชมความต่างได้จากรูปด้านล่างนี้เลยครับ
หากยังเห็นไม่ชัด งั้นมาดูภาพเปรียบเทียบแบบถ่ายติดๆ กันไปเลยดีกว่าว่าบางกว่ากันอย่างเห็นได้ชัดเจนนั้นเป็นอย่างไรครับ
ในรูปอาจเห็นได้อย่างไม่ชัดเจนนักว่ามันแตกต่างกันมากขนาดไหน แต่หากได้ลองจับ ลองสัมผัสแล้วจะทราบว่าความแตกต่างนั้นชัดเจนมากครับ ใครที่คุ้นเคยกับเจ้าตัวรุ่นพี่ พอได้ลองเปลี่ยนมาใช้เคสตัวนี้จะรู้สึกเลยว่า iPhone 5 ของเราได้รูปมายิ่งขึ้น เข้ามือมากยิ่งขึ้น แต่แรกๆ ก็จะรู้สึกแอบจับยากสักหน่อยเพราะมันเล็กและบางกว่าตอนใส่เคสตัวเก่ารุ่นเก่าพอประมาณเลยครับ
จุดนี้ถือว่า SPG ทำการบ้านมาอย่างดีในส่วนที่คนคอมเมนต์ไปในตอนแรกเรื่องของความหนาที่ทำให้บดบังความบางบน iPhone 5 ไปจนหมด แน่นอนว่ามันคงไม่บางราวกับเครื่องเปลือยเปล่าเลย แต่มันก็บางมากๆ เมื่อมานึกถึงความจริงที่ว่าเคสตัวนี้ถูกออกแบบมาเพื่อการปกป้องสองชั้นด้วยการรองชัดในสุดด้วยแผนยางขาวก่อนจะมาถึงชั้นสีสันด้านนอกเพื่อป้องกันเคสด้านนอกขูดขีดขอบเครื่องเราครับ
แต่…
[box_tip]เมื่อได้อย่าง (หรือสองอย่าง)…ก็ต้องเสียอย่าง (หรือสองอย่าง)[/box_tip]
Spigen SPG Neo Hybrid EX – Slim พยายามปิดข้อเสียเรื่องความหนาของรุ่นพี่ตัวเก่าไปจนทำให้ไม่สามารถลักษณะความปลอดภัยเมื่อตกกระแทกอย่างที่เราเคยรู้สึกกับตัว SPG Neo Hybrid EX ตัวเก่าได้ครับ เหตุเพราะในตัวใหม่นี้ อย่างหนึ่งที่เราเห็นได้ชัดคือยางรองชั้นในของเครื่องนั้นบางลงเยอะพอควร ทำให้แต่เดิมที่ตัวยางชั้นในของรุ่นเก่านั้นสามารถปกป้องตัวเครื่องเรา (ทั้งหน้าจอและด้าวหลัง) จากภัยอันตรายต่างๆ ได้เยอะนั้นต้องหายไปพอควร เหตุเพราะพื้นผิวหน้าจอและด้านหลังนั้นถูกยกให้อยู่เหนือจากระดับพื้นดินด้วยยางรองเครื่องชั้นในขึ้นมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นั่นหมายความ (เอาเอง) ว่าหากคุณเผลอทำเครื่องตกพื้นแบบคว่ำหน้าหรือหงายหน้าก็ตาม โอกาสที่หน้าและหลังเครื่อง (ตามแต่ลักษณะการตก) จะกระแทกกับพื้นนั้นก็มีเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ต่างกันกับรุ่นพี่ที่ส่วนยางรองด้านในนั้นปูดป่องออกมาป้องกันการตกกระทบด้านหน้าและด้านหลังอย่างชัดเจน นี่จึงเป็นจุดบอดจุดสำคัญที่ต้องผมเห็นว่าผู้ที่สนใจต้องแลกเอา แต่ก็นั่นล่ะนะ ความสวยขึ้นที่เกิดจากความบางกว่าใน Slim นั้นมันยากเกินห้ามใจจริงๆ
ส่วนในเรื่องของแจ๊คเสียบหูฟังที่เราคอมเมนต์ไปในข้างต้นนั้น หลังจากได้ลองใช้งานจริงกับหูฟังหลายๆ ประเภทแล้วพบว่า SPG ยัง “ไม่สามารถ” ขจัดปัญหาที่ว่านี้ไปได้อย่างหมดสิ้น โดยใน SPG Neo Hybrid EX – Slim นั้น เราสามารถเชื่อมต่อแจ๊คหูฟังได้กับหูฟังหลากหลายมาหขึ้นกว่าตัวเก่าอย่างแน่นอน (เพราะความบางขึ้นของมัน) แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถเชื่อมต่อได้กับทุกตัว จากการทดสอบของเราพบว่า 2 ใน 5 หูฟังไม่สามารถเชื่อมต่อแจ๊คกับรูหูฟังได้บนตัวใหม่นี้ครับผม ดังนั้นในส่วนนี้จึงถือว่าพอเห็นความพัฒนาของ SPG ในเรื่องหูฟังอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้มากเท่าที่ควรจนสามารถแก้ปัญหาไปได้จนหมดสิ้น ใครเป็นนักฟังเพลงบน iPhone ก็คงต้องคิดหนักหน่อย หากเป็นไปได้ก็ลองเอาหูฟังไปขอเสียบลองก่อนซื้อกันดูครับ (หากที่ร้านอนุญาตนะครับ)
[box_tip]บทสรุป[/box_tip]
Spigen SPG Neo Hybrid EX – Slim ถือเป็นเคส iPhone 5 คุณภาพดี คุ้มค่า คุ้มราคาอีกตัวหนึ่งจากทาง SPIGEN ครับ ด้วยรูปร่างหน้าตาที่บาง เบา และสวยงามกว่ารุ่นพี่ของมันอยู่ในระดับหนึ่ง ทำให้เรามีโอกาสได้โชว์เรือนร่างที่เราภาคภูมิใจของ iPhone 5 ได้มากขึ้น (แฟนบอยมาก) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องพร้อมที่จะมองข้ามการปกป้องที่อาจไม่รัดกุมเท่ากับรุ่นพี่ตัวหนาเป็นรถถังอย่างใน SPG Neo Hybrid EX และต้องยอมรับความจริงที่ว่าหูฟังตัวเก่งของคุณอาจไม่สามารถใช้งานได้หากสวมเคสตัวนี้อยู่นะครับ
และหากคุณพร้อมที่จะมองข้ามสิ่งเหล่านั้นแล้วก็สามารถไปจับจ่ายซื้อหาเป็นเจ้าของความสวยงามหรูหรานี้ได้ตามร้านทั่วไป หรือตรงไปสั่งซื้อจากผู้สนับสนุนสินค้าชิ้นนี้ของเราได้เลยที่ www.12case.com ครับ
ผลิตภัณฑ์สำหรับการเขียนรีวิวสนับสนุนโดย – 12case.com
[gradeA]