คสช.มีมติยกเลิกโครงการจัดซื้อแท็บเล็ตในส่วนที่เหลือ หลังพิจารณาแล้วพบว่าไม่คุ้มค่า พร้อมให้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งคณะทำงานเสนอโครงการอื่นมาทดแทน และเตรียมดำเนินการตรวจสอบความโปร่งใสตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ
Advertisement
Advertisement
Advertisement
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา มีคำสั่งยกเลิกโครงการหนึ่งคอมพิวเตอร์พกพาต่อหนึ่งนักเรียน ทั้งในส่วนของปีงบประมาณ 2556 วงเงิน 1,170 ล้านบาท และการจัดซื้อแท็บเล็ต ปีงบประมาณ 2557 จำนวน 5,800 ล้านบาท
หลังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอข้อดีข้อเสียของโครงการ แล้วมีความเห็นว่า นักเรียนทุกคนไม่จำเป็นต้องได้รับแจกแท็บเล็ตเป็นของตนเอง เพราะใช้แท็บเล็ตเรียนเพียงแค่ 1-2 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น จึงถือว่าไม่คุ้มค่า และไม่เหมาะสมที่จะจัดซื้อให้แก่นักเรียนทุกคน ขณะเดียวกันยังเห็นว่า แท็บเล็ตไม่เหมาะที่จะนำมาใช้สอนนักเรียนตลอดเวลา ควรใช้บางชั่วโมงเท่านั้น และนักเรียนควรได้เรียนรู้จากครูผู้สอนมากกว่า
อีกทั้ง แท็บเล็ตยังถือเป็นครุภัณฑ์ของโรงเรียน จึงไม่เหมาะสมที่จะไปมอบให้นักเรียนเป็นของส่วนตัว ซึ่งในที่ประชุมคณะกรรมการว่าด้วยพัสดุ กรมบัญชีกลาง ระบุว่าจะมอบแท็บเล็ตให้แก่นักเรียนไม่ได้ ที่สำคัญแท็บเล็ตมีขนาดหน้าจอที่เล็ก ทำให้นักเรียนมีปัญหาด้านสายตา ส่วนการจัดซื้อเครื่องแท็บเล็ตซื้อมาในราคถูก ทำให้แท็บเล็ตมีคุณภาพต่ำ มีอายุใช้งานสั้นเพียง 3 ปีเท่านั้น จึงไม่คุ้มค่าเมื่อต้องซ่อมแซม
นอกจากนี้ คสช. ยังเตรียมตรวจสอบความโปร่งใสการจัดซื้อแท็บเล็ตด้วย โดยย้อนกลับไปตั้งแต่การจัดซื้อครั้งแรกในปีงบประมาณ 2555 ซึ่งดำเนินการโดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที รวมทั้งตรวจสอบข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างเป็นรายหน่วยงาน ทั้งของสำนักงานคณะกรรมการการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน หรือ สช.