สิ่งแรกหลังจากที่ Appdisqus ได้เครื่อง Huawei P30 Pro มาอยู่ในมือ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเราอยากจะลองความสามารถใดของมันมากที่สุด ^^
มันต้องเป็น “กล้องถ่ายภาพ” อยู่แล้วครับ สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับระบบการถ่ายภาพใหม่เพียบไปหมด ตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ยันซอฟท์แวร์ ไล่ตั้งแต่ภายนอกด้วยกล้องหลังสี่ตัวจาก Leica มีมาทั้งกล้องความละเอียดสูง 40 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f1.6 กล้องเลนส์กว้าง Ultra Wide ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล พร้อมกับเลนส์เทเลซูมออพติคัล 5X ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล แต่ละตัวพิษสงก็ร้ายๆ ทั้งนั้นครับ
และขอต้อนรับน้องคนที่สี่ของกล้องหลัง ซึ่งเป็นเซนเซอร์กล้องใหม่ที่ไม่ได้เอาไว้สำหรับใช้ถ่ายภาพโดยตรง แต่เป็นเซนเซอร์ที่เข้ามาช่วยวัดระยะห่างของวัตถุโดยเฉพาะ นั้นคือ ToF Depth Sensing Camera หรือเซนเซอร์ Time of Flight นั้นเองครับ เจ้าตัวนี้จะสามารถยิงแสงออกไปในระยะไกลเพื่อตรวจจับวัตถุที่อยู่ตรงหน้า และสะท้อนกลับมายังเซนเซอร์เพื่อตรวจหาระยะห่างที่แตกต่างของสิ่งที่กล้องมันตรวจเจอได้ครับ
ผลลัพท์ก็คือ เมื่อตอนนี้เรามีตัวฮาร์ดแวร์ใหม่ที่เข้ามาช่วยซอฟท์แวร์ของกล้อง Huawei P30 Pro ทั้งในเรื่องของการถ่ายหลายระยะ ทังในเรื่องการซูมภาพ รวมถึงตัวเซนเซอร์สำหรับระบุระยะห่างที่แม่นยำมากขึ้น
ฉะนั้นการละลายฉากหลัง การทำหน้าชัดหลังเบลอมันก็จะมีความแม่นยำและความเนียนของการแยกวัตถุต่างๆ ในระดับแยกเลเยอร์ได้มากขึ้น เข้าใกล้การละลายหลังด้วยเลนส์จริงได้เข้าไปอีกขั้นนึงครับ
และกล้องหลังทั้งสี่ตัวยังจะทำงานภายใต้เทคโนโลยีใหม่ของกล้อง Huawei ที่ทำออกมาพร้อมๆ อีกด้วย นั้นคือ ตัวเซนเซอร์รับแสง HUAWEI SuperSpectrum ที่มีขนาดใหญ่ถึง 1/1.7 นิ้ว นับเป็นเซนเซอร์กล้องบนมือถือที่มีขนาดใหญ่มากครับ และยังใช้เทคนิคการเรียงเม็ดสี RYYB (แดง, เหลือง, เหลือง, น้ำเงิน) แทนรูปแบบ RGGB (แดง, เขียว, เขียว, น้ำเงิน)
ด้วยทาง Huawei ได้ให้ข้อมูลเอาไว้ว่า เม็ดสี “สีเหลือง” จะรับแสงเข้าเซนเซอร์ได้มากกว่าเม็ดสีสีเขียวโดยตรงได้ถึง 40% เลยทีเดียวครับ และเป็นสีที่เมื่อรวมกับเม็ดสีสีน้ำเงินแล้ว ก็จะกลายเป็นแสงสีเขียวได้เช่นกัน ฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงเม็ดสีบนเซนเซอร์ในลักษณะนี้จะเป็นการเพิ่มจำนวนแสงเข้าเซนเซอร์ได้อีกระดับ
Huawei ได้ใช้เทคนิคใหม่เข้ามาช่วยให้กล้องของ Huawei P30 Pro สามารถสร้างค่า ISO ชดเชยแสงได้สูงสุดถึง 409,600 กันเลยทีเดียวครับ เป็นตัวเลข ISO ที่นับว่าสูงมากแม้แต่การพูดถึงกล้องระดับโปรเลยนะครับ
แต่ยังไงสิ่งสำคัญก็คือ “ผลลัพท์” ครับ ไม่ว่าะทาง Huawei จะมาบอกเราว่าภายในมีระบบใหม่อะไรยังไง มันก็ไม่เท่ากับผลลัพท์ที่ตาเราจะได้เห็นเองถูกมั้ยครับ ฉะนั้นต้องลอง
ก็ไม่ต้องรอช้าครับ ไปลองกันทันทีกับสามระบบที่ผมคิดว่าเป็นความสามารถสำคัญของ Huawei P30 Pro ครับ นั้นคือ
- ระบบซูมภาพ ที่สามารถซูมออพติคัลได้ 5 เท่า แบบไฮปริดได้ 10 เท่า และแบบดิจิทัลได้ถึง 50 เท่า
- คุณภาพการถ่ายกลางคืน ในที่แสงน้อย และในที่ “มืด”
- และการถ่ายภาพบุคคล และการเซลฟี่
ประสิทธิภาพการซูม
ต้องบอกว่าการซูมภาพระดับ 50X มันเป็นตัวเลขที่ไม่คาดคิดครับ ซูมกันเห็นหมู่บ้านลี้ลับใจกลางภูเขากันได้เลยละครับซูมระดับนี้ ตอนนี้มันมีมาให้ใช้ในมือถือแล้วแต่มันจะทำได้ดีแค่ไหน มาดูกันครับ
ซึ่งจากการทดสอบ ผมบอกได้เลยว่าการซูมระดับ 5X ทำได้ในแบบ 100% ครับ เพราะว่ามันเป็นการซูมแบบออพติคัลหรือการซูมด้วยเลนส์จริง ไม่ได้มีการใช้ซอฟท์แวร์ช่วยซูมผลลัพท์มันจึงคมกริบครับ
เมื่อระบบซูมมีการทำงานรวมกับระบบกันสั่นของ P30 Pro ที่มีทั้ง OIS และ AIS ทำให้ภาพซูม 5X ใช้งานได้เลยในทุกโอกาส ไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง ไม่ต้องใช้อะไรมาหนุนมือเราก่อนให้ลำบาก หยิบกล้องขึ้นมากดเข้าหมวดซูม 5X ถ่ายได้ทันทีครับ
แต่จากที่ลองใช้ผมว่าตัวไม้ตาย P30 Pro จริงๆ อยู่ที่ไฮปริดซูมระดับ 10X ครับ มันเป็นการซูมที่อาศัยเลนส์ออพติคัล + การซูมแบบดิจิทัลอีกเล็กน้อย ผสมกันสร้างภาพระดับซูมสิบเท่าขึ้นมา ซึ่งผมว่ามันเป็นระยะที่น่าตื่นตาสำหรับมือถือมากๆ ผลลัพท์ของมันมีคุณภาพที่เรียกได้ว่าไม่ต่างจากซูมออพติคัลแท้ๆ เท่าไหร่เลย
ผมว่าในระยะ 10X Huawei ยังทำออกมาได้ดีมากครับ
10x นี่เป็นระยะไม่ธรรมดานะ จากที่เราเคยต้องพกกล้องใหญ่ๆ เลนส์ซูมอันหนักๆ ตอนนี้เหลือมือถือเครื่องเดียวแล้ว แม้คุณภาพมันจะไม่เท่ากับการซูมของเลนส์กล้องจริงก็ตามนะครับ แต่ดูจากขนาดที่แตกต่างกันมหาศาลขนาดนี้ รวมถึงความสะดวกในการใช้และการพกพา ผลลัพท์ที่ได้มาผมยอมรับได้เลย และนี้เป็นนวัตกรรมระบบซูมภาพของกล้องมือถือที่อาจจะมาเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับคนชอบท่องเที่ยวเลยละครับ
ซึ่งอย่าลืมว่า Huawei P30 Pro ยังมีโหมดการซูมภาพดิจิทัลที่มันสามารถซูมภาพได้สูงสุดถึง 50x อีกด้วยนะ
ซึ่งการทำงานของระบบซูม Huawei P30 Pro ในขณะที่เรากำลังเล็งวัตถุที่จะถ่าย ตัวกล้องจะเปิดโหมดกันสั่นเต็มพิกัดจำกัดการเคลื่อนที่ของหน้ากล้องเราให้ช้าลงและเพิ่มความนิ่มนวลให้มากขึ้น เพราะการซูมระดับเกิน 30X ขึ้นไปลำพังมือเราส่ายเพียงนิดเดียว แค่ขยับจากการหายใจหน้ากล้องที่เล็งไว้ก็พร้อมที่จะหลุดโฟกัสจากวัตถุได้ง่ายๆ แล้วละครับ
ฉะนั้นด้วยความช่วยเหลือของระบบกล้อง ทำให้ลำพังการถ่ายภาพซูม 40X 50X ยังสามารถถ่ายด้วยมือเปล่าได้อยู่ครับ ไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง แต่เกร็งแขนกันเหนื่อยหน่อย ^^ ผมชอบที่ระบบ AI ยังทำงานให้ด้วยแม้แต่การซูม มันตรวจจับเจอว่าจะถ่ายอะไรก็ปรับภาพแสงสีให้อัตโนมัติตามซีนให้ในทุกระยะการซูมครับ
จากที่เห็น ระยะซูม 50x คือสิ่งที่น่าตกใจ ผลลัพท์คุณภาพที่ได้ก็เช่นกันนะ แม้มันจะไม่ชัดเท่าการซูมระยะใกล้แบบ 10X แต่นี้มันคือระยะการซูมดิจิทัลที่ยังไม่เคยมีคนทำได้ขนาดนี้มาก่อนครับ
นอกจากเรื่องซูมไกลแล้ว กล้อง Huawei P30 Pro ยังมีกล้องเลนส์อัลตร้าไวด์หรือกล้องมุมกว้างด้วย ทำให้มือถือเครื่องนี้เครื่องเดียวจะสามารถเก็บภาพได้ตั้งแต่ระยะ 0.5 ขึ้นไปเลยละครับ เก็บหมด จบทุกระยะจริงๆ
ตัวอย่างภาพสี่ระยะเลนส์ เลนส์กว้าง Ultra Wide, 1x, 5x, และ 10x,
และผลลัพท์การซูมแบบดิจิทัล 50X
จริงๆ ระบบซูมของกล้อง Huawei P30 Pro ไม่ได้กำหนดระยะซูมให้เราใช้ตายตัวนะครับ เราสามารถสไลด์แถบด้านล่างเพื่อเลื่อนระดับซูมได้ตามใจเรา ซึ่งจากที่ผมลอง ตัวกล้องจะให้ผลลัพท์ที่ดี สำหรับสภาพแสงดีๆ ในระดับประมาณไม่เกิน 40X ก็จะได้ภาพที่ดูคมพอประมาณครับ
กล้องนี้ถ่ายมาโครก็ได้นะ โดยเปิดใช้ได้ในโหมดกล้องอัลตร้าไวด์ ส่องวัตถุได้ใกล้ถึง 2.5 เซนติเมตรก็โฟกัสได้ครับ อันนี้ก็น้อยนักที่จะหากล้องมือถือโฟกัสได้ใกล้ขนาดนี้
การถ่ายภาพกลางคืน
ระบบซูมภาพที่ผมว่าทั้งหมดด้านบน รวมถึงเลนส์ไวด์ จะสามารถใช้งานได้คู่กันกับระบบ AI ของเครื่อง และใช้ได้ใน “โหมดถ่ายภาพกลางคืน” อีกด้วย
ฉะนั้นความเก่งกาจของระบบถ่ายภาพกลางคืนของ P30 Pro จึงโหดมาก เพราะมันสามารถถ่ายภาพกลางคืนโดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องได้สวยแล้ว มันยังซูมภาพวัตถุในตอนกลางคืนได้ด้วย ระยะ 10x นี่ได้ภาพดีๆ ไม่ยากเลย ภาพยังคม คงไว้ซึ่งแสงสวยๆ รายละเอียดมาครบชัดเจน โหดมากจริงๆ ครับ ระบบซูม+ถ่ายภาพกลางคืนของเจ้าตัวนี้
ตัวอย่างการถ่ายภาพกลางคืน ยังคงยอดเยี่ยม ภาพสวย ถ่ายง่าย ยังคงเด่นด้านเล่นกับแสงไฟเช่นเดิม
แต่เราไม่ต้องเปิดโหมดกลางคืนหรือ AI เพื่อจะให้ภาพกลางคืนมันสว่างทุกๆ ครั้งที่ถ่ายก็ได้นะครับ เพราะผมว่าบางครั้งถ่ายโหมดธรรมดาให้ที่มืด ให้ภาพมันยังคงความมืดโดยใช้โหมดธรรมดา ผมก็ว่าคมครับ (ภาพซ้าย)
แต่ถ้าต้องการจะให้กล้องมันงัดรายละเอียดออกมาในส่วนที่มืดและยังคงความสว่างเดิมของแสงไฟให้ภาพมันดูฉูดฉาดตา ก็ค่อยเปิดโหมดกลางคืนครับ (ภาพขวา)
เพราะภาพถ่ายตอนกลางคืนของ P30 Pro มันทำได้ดีทั้งสองแบบเลย
และเมื่อใช้โหมดการถ่ายภาพกลางคืน + เลนส์อัลตร้าไวด์ และ ระบบซูมภาพ 1x, 5x, 10x ที่มีให้ ถือถ่ายมือเปล่าๆ มันก็ยังไหวนะครับแม้จะซูมถ่ายตอนกลางคืน
เห็นธงที่โบกไสวไกลอยู่ลิบๆ นั้นมั้ยครับ อย่าลืมว่าธงมันไม่อยู่นิ่งๆ ให้เราถ่ายนะครับ ผมเลยทดสอบการซูมกลางคืนกับมันนี่แหละ โหดดี
ถ้าเป็นวัตถุนิ่งๆ ง่ายเลยครับ เอาเป็นหอนาฬิกาละกันครับ
ซูมเข้าไปสักหน่อย 5x แบบออพติคัล
จ่อเข้าไปชัดๆ เลย กับการซูมไฮปริด 10 เท่าครับ
คือถ้าจะทดสอบความสามารถการถ่ายที่มืดของ P30 Pro จริงๆ ผมว่ามันไม่ต้องไปถ่ายเล่นกับไฟครับ ลองปิดไฟในห้องให้มืดสนิทแล้วถ่ายในบ้านเราดู ก็รู้แล้วว่ามันงัดรายละเอียดจากในที่ไม่มีแสงได้ดีแค่ไหน
ปิดไฟ ลองถ่ายในจุดที่แม้แต่ตาผมก็มองไม่เห็น มันก็ยังได้ภาพและรายละเอียดมาแบบน่าตกใจครับ – –
(ภาพซ้ายผมใช้กล้อง A7 ดัน ISO ไป 6400 เพื่อ ให้พอเห็นสภาพแสงจริง ภาพขวาคือสิ่งที่ Huawei P30 Pro ถ่ายมาได้)
ด้วยความสามารถเห็นในที่มืดได้มากกว่าตามนุษย์ การทำหน้าชัดหลังเบลอแยกวัตถุจากฉากหลังในที่แสงน้อยมากๆ มันจึงยังสามารถทำได้คมกริบครับ แถมภาพละลายหลังดูมีมิติความลึกและระดับชั้นของเลเยอร์ที่ดี ไล่ความเบลอได้สวยกว่าเดิมด้วยครับ
และยังคงถ่ายก่อนปรับที่หลังได้เช่นเดิม กำหนดจุดโฟกัสใหม่ ปรับความชัดลึกชัดตื่นใหม่ หลังจากถ่ายไปแล้วได้
จะเห็นว่าความมืดแทบไม่ใช่อุปสรรคสำหรับ P30 Pro เลยครับ
ภายในระบบกล้องยังมีโหมดเล่นกับแสงไฟอีกหลายตัวที่ Huawei พัฒนาออกมาครับ ไม่ว่าจะเป็นการวาดแสง การถ่ายไฟรถ และโหมดน่าเล่นล่าสุดกับการถ่ายน้ำไหลให้ดูอ่อนนุ่มเป็นฟองนม ^^
การถ่ายภาพบุคคล และการเซลฟี่
ก็ปิดท้ายกันด้วยความสามารถในการจับบุคคล และใบหน้า แน่นอนว่าในการถ่ายภาพบุคคลก็ยังมีความสามารถของทั้งสองสิ่งตามมาให้ใช้งานคู่กันได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นระบบซูมภาพที่สามารถซูมภาพได้ 1x, 2x, และ 3x สำหรับการถ่ายภาพบุคคลโดยเฉพาะ
การละลายฉากหลังทำได้มากกว่าแค่การแยกบุคคลกับฉาก แต่จะมีระดับชั้นหรือเลเยอร์การเบลอมากขึ้น
และมีโหมดสำหรับการถ่ายภาพบุคคลในที่แสงน้อย ซึ่งเราสามารถเล่นกับโบเก้ไฟในฉากหลังได้ ปรับเปลี่ยนรูปทรงเป็นแบบต่างๆ ให้ภาพดูแปลกตามากขึ้นครับ ซึ่งสามารถทำได้ทั้งกล้องหลังและกล้องหน้าเลยครับ
มีความสามารถในการทำหน้าสวยใสได้หลากหลายระดับและปรับโครงหน้าได้หลายจุด อันนี้สำคัญ ^^ ปรับได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเช่นกัน
สิ่งที่มีการพัฒนามาเพิ่มก็คือการเซลฟี่ย้อนแสงแบบแสงจ้าๆ ได้ครับ ทาง Huawei เรียกว่าระบบ AI HDR+ มันทำให้เราสามารถเซลฟี่กับวัตถุฉากหลังที่มีแสงสว่างมากๆ หรือการเซลฟี่แบบย้อนแสงพระอาทิตย์ ซึ่งยังคงความสว่างของใบหน้าผู้ถ่ายได้ในระดับปกติ รวมถึงฉากหลังไม่จ้าจนแสงโอเวอร์ครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
สรุปการถ่ายภาพ
ครบเครื่องกว่านี้ยังไม่มีครับ ตัวนี้ครบสุดแล้วในด้านการถ่ายภาพ หลากหลายแถมมีความเก่งมากด้วย เด่นที่การถ่ายภาพกลางคืน ซึ่งไม่ใช่แค่เล่นกับแสงไฟได้ดีเท่านั้น แต่ในที่ “มืด” ที่เรียกว่ามืดสนิทจริงๆ มันก็ยังถ่ายได้
กล้องถ่ายภาพหลากหลายระยะที่สุด เพราะว่ามีทั้งเลนส์อัลตร้าไวด์ ที่ถ่ายได้ตั้งแต่มาโคร 2.5 เซนติเมตรใกล้วัตถุ ไปจนถึงระบบซูมภาพไกล ที่ก้าวข้ามความสามารถกล้องมือถือที่เคยทำกันออกมา
มันซูมได้จริง ภาพชัดจริง และนำมาใช้งานได้จริงครับ ตัวเดียวเก็บหมดตั้งแต่จ่อจมูกไปจนถึงยอดตึกระฟ้า ย่อการพกพาจากเลนส์กล้องใหญ่ๆ เหลือแค่มือถือเครื่องบางๆ เครื่องเดียว
การซูมหวังผลสวยๆ ซูมได้จนถึง 10x ครับ เกินกว่านั้นตามสภาพแสง ส่วนใหญ่การซูมไกลมากๆ น่าจะเอาไว้ใช้เป็นการซูมเพื่อให้เห็น มากกว่าการซูมเพื่อให้สวยครับ
มาพร้อมระบบใหม่ๆ เพียบ น่าใช้ ตื่นตื่นตาตื่นใจครับ ใครอยากสนุกกับการถ่ายภาพให้เต็มที่กับมือถือเครื่องใหม่ ไม่ต้องลังเลใจครับ ตัวนี้ AppDisqus รับประกันความฟิน ^^