นาทีนี้เราทุกคนกำลังตกในช่วงเวลาการระบาดของโควิต19 ทำอะไรก็ลำบาก เงินไม่พอใช้กันอยู่ใช่ไหมล่ะ รัฐบาลเลยเปิดลงทะเบียน “ คนละครึ่ง ” แล้วใครมีสิทธิ์ได้บ้าง เกณฑ์ที่จะรับเป็นยังไง โครงการนี้จะน่าสนใจยังไง มีประโยชน์ยังไงนะ วันนี้เรามีมาฝากค่ะ
โครงการ”คนละครึ่ง” นี้มีขึ้นมาเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศของเรา บรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้เราทุกๆคน และช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ร้านค้ารายย่อย เป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศในองค์รวม ข่าวดีวันนี้เริ่มให้ลงทะเบียนแล้วได้แบ่งการลงทะเบียนเป็นสองนะ ส่วนแรกคือ ประชาชนพวกเราๆ และ ส่วนที่สอง คือ ร้านค้า แล้วเริ่มให้ลงทะเบียนตั้งแต่ 16 ต.ค. 63 สำหรับประชาชน และ 1 ต.ค. 63 สำหรับร้านค้า เริ่มลงทะเบียน เริ่มกันตั้งแต่ 6.00 – 23.00 เท่านั้นนะ ย้ำว่าเท่านั้น ที่เวป https://www.คนละครึ่ง.com/ ระวังเวปปลอมกันด้วยนะ
แล้วหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และความยินยอมสำหรับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ มีอะไรบ้าง?
- ช่วงเวลาใช้สิทธิ คือ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563
- ส่วนแรกคุณสมบัติของประชาชนที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ
(1) มีหมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก
(2) มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ ณ วันลงทะเบียน
(3) เป็นผู้มีสัญชาติไทย
(4) ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
(5) ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่าน www.คนละครึ่ง.com ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2563
(6) มีแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ที่ผูกบัญชีธนาคารกรุงไทยฯ
3. ส่วนที่สองคุณสมบัติของผู้ประกอบการร้านค้า ที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ
(1) เป็นผู้ประกอบการสัญชาติไทยที่ไม่ใช่นิติบุคคล
(2) ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือผ่านสาขาธนาคารกรุงไทย จำกัด และ/หรือให้ความยินยอมตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563
(3) ไม่เป็นร้านค้าที่มีลักษณะเป็นร้านสะดวกซื้อธุรกิจแฟรนไชส์
(4) ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการอื่น ๆ ของรัฐ
(5) ไม่เป็นผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของมาตรการอื่น ๆ ของรัฐ หรือฝ่าฝืนมาตรการใด ๆ ของรัฐเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
การใช้สิทธิทำได้ง่ายๆ รัฐจะสนับสนุนเงินแก่ประชาชนในการซื้ออาหาร เครื่องดื่ม หรือสินค้าทั่วไป จากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ เป็นจำนวนร้อยละ 50 ของราคาสุทธิในใบเสร็จรับเงิน ภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้
(1) จ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่ม หรือสินค้าทั่วไป ให้แก่ร้านค้าผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง”
(2) จำนวนเงินที่รัฐสนับสนุนให้ต่อหนึ่งหมายเลขประจำตัวประชาชนจะไม่เกินกว่า 150 บาทต่อวัน และไม่เกินกว่า 3,000 บาทรวมตลอดทั้งโครงการฯ
(3) ค่าสินค้า เครื่องดื่ม หรืออาหาร ที่รัฐสนับสนุนเงิน ไม่รวมถึง หวย ของมึนเมา บุหรี่ ยาสูบ และบริการต่าง ๆ
(4) ใช้สิทธิภายใน 14 วัน นับแต่วันถัดจากวันที่ได้รับ SMS แจ้งว่าได้รับสิทธิ หากไม่ใช้สิทธิภายในเวลาดังกล่าวจะถูกตัดสิทธิ และไม่สามารถลงทะเบียนได้อีก
(5) แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” จะสามารถใช้งานได้ระหว่างเวลา 06.00 – 23.00 น. ของทุกวัน
ตรงนี้สำคัญมาก ข้อความตกลงยินยอมของประชาชน ที่เข้าร่วมโครงการฯ อยากให้อ่านให้ดีก่อนกดยืนยัน
1. ยินยอมให้กระทรวงการคลัง ธนาคารกรุงไทยฯ และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง จัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ไว้ในการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ
2 .ยินยอมให้กระทรวงการคลัง ธนาคารกรุงไทยฯ และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง จัดเก็บ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ไว้ในการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ เพื่อการประมวลผลและการตรวจสอบข้อมูล และ/หรือเพื่อการยืนยันตัวตนหรือเพื่อการตรวจสอบคุณสมบัติเพื่อรับสิทธิตามโครงการฯ
3 .ยินยอมให้กระทรวงการคลัง หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ จัดเก็บ ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้า เพื่อประโยชน์ในการดำเนินมาตรการอื่นของรัฐหรือเพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดินในอนาคต
4 .ยินยอมให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องร้องขอ สอบถาม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าเพื่อประโยชน์ในการดำเนินโครงการฯ
5.รับทราบว่าการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมาย