อรุณสวัสดิ์เช้าวันพุธ กลับมาพบกับ”เหน่งคุงคนเดิม เพิ่มเติม เดี๋ยวบอก” กันอีกเช่นเคยนะครับผม สำหรับวันนี้แน่นอนว่าผมมีเรื่องราวดีๆมาฝากทุกๆคนอีกตามเคย
ซึ่งเรื่องราวในวันนี้ทั้งหมดจะเป็นเรื่องของผู้ชายคนนึงที่เคยช่วยผมไว้ในวันที่ผมรู้สึกว่ามันเป็น “วันที่แย่ที่สุดในชีวิต” ซึ่งผมคิดว่าเรื่องราวของผู้ชายคนนี้เป็นเรื่องที่มหัศจรรย์และน่าจะช่วยใครหลายๆคนที่กำลังท้อแท้อยู่ในเช้าวันนี้ได้แน่นอน พร้อมแล้วไปรู้จักกับผู้ชายคนนี้กันเลยดีกว่าครับ
Nick Vujicic (นิค วูจิชิค)
นิคเป็นคนที่พิการตั้งแต่กำเนิด เกิดมาไร้แขนและไร้ขา ซึ่งจริงๆก็ไม่ถึงกับไม่มีขาซะทีเดียวหรอกครับเพราะอันที่จริงแล้วเขามีขาเล็กๆอยู่ข้างหนึ่งที่เค้าตั้งชื่อให้มันแบบน่ารักๆว่า Chicken drumstick (น่องไก่) และดูเหมือนเค้าจะภูมิใจกับเจ้าน่องไก่ของเค้ามากๆด้วย
ชีวิตในวัยเด็กของเค้าก็มักจะถูกเพื่อนล้อประจำเลยล่ะครับ ไม่ว่าจะเป็น “ตัวประหลาด, สัตว์ประหลาด, เอลี่ยน” ถ้อยคำเหล่านี้เป็นสิ่งที่นิคต้องเจออยู่ทุกวัน จนบางครั้งนิคถึงกับพยายามจะฆ่าตัวตายให้มันพ้นๆโลกนี้ไปซะ
โดยเค้าพยายามที่จะจมตัวเองลงในอ่างอาบน้ำที่มีความสูงไม่มากนัก อย่างไรก็ตามนั่นก็เพียงพอแล้วล่ะครับสำหรับการฆ่าตัวตายของนิค แต่ดูเหมือนว่าความพยายามของเค้าจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร นั่นก็เพราะว่าหลังจากที่เค้าพยายามฆ่าตัวตายกลับมีสติคิดขึ้นมาได้ว่า ถึงแม้เค้าจะพิการไม่มีแขน ไม่มีขา แต่เค้าก็ยังมีคนรอบๆข้างที่ยังรักและคอยดูแลเอาใจใส่เค้า และยิ่งเค้าคิดว่าหากเกิดมาก็พิการขนาดนี้แล้วยังจะฆ่าตัวตายอีกคงเป็นชีวิตที่ดูไร้ค่ามากๆ
ไม่มีแขน ไม่มีขา ก็ฝันได้
รู้หรือไม่ครับว่าความฝันสามารถทำให้ชีวิตของคนเราเปลี่ยนไปได้ ผมเชื่อว่าหลายๆคนตอนนี้คงลืมความฝันของตัวเองที่เคยตอบคุณครูของเราตอนเด็กไปแล้วล่ะครับว่าโตขึ้นเราอยากเป็นอะไร ??
เด็กชายนิค ก็เป็นคนหนึ่งครับที่มีฝัน ซึ่งความฝันของเค้าก็ดูเหมือนว่าจะใหญ่โตเกินกำลังและร่างกายของเค้าไปไม่น้อยเลย เพราะเค้าบอกว่าตอนเด็กๆเค้าฝันว่าอยากจะเป็น นักพูดที่มีชื่อเสียงโด่งดังก้องโลก และแน่นอนว่าหากใครที่ล่วงรู้ความฝันของเค้าต้องหัวเราะเยาะเป็นแน่ “ไม่มีทางเป็นไปได้ที่คนพิการแบบนี้จะมีใครยอมรับ”
ข้ออ้างมีไว้เพื่อละลายฝัน
ถึงแม้ว่านิคจะเกิดมาพร้อมกับการไม่มีแขน ไม่มีมีขา เหมือนกับคนอื่นๆ แต่สิ่งหนึ่งที่นิคมีคือความฝัน ความฝันที่เป็นแหล่งพลังงานหลักที่ใช้ในการขับเคลื่อนชีวิตของเค้าให้ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างไม่มีคำว่าข้ออ้าง เพราะนิคไม่เคยคิดเลยว่าการไม่มีแขน ไม่มีขา ของเค้าจะเป็นอุปสรรคที่เข้ามาขวางทางความฝันได้ นิคศึกษาและเล่าเรียนเทคนิคการพูดโดยใช้ความรักและความเอื้อเฟื้อเป็นที่ตั้งโดยหวังว่าวันนึงเค้าจะมีโอกาสได้ช่วยคนที่กำลังล้มให้ลุกขึ้นสู้ใหม่ได้
ความฝันที่เป็นจริง
ในที่สุดนิคก็ได้กลายเป็นนักพูดที่โด่งดังที่สุดของโลกคนหนึ่ง โดยเรื่องราวของเค้าได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนนับล้านที่กำลังคิดว่าตัวเองนั้นมีช่วงเวลาที่แย่ที่สุดในชีวิต เรื่องราวของนิคได้ทำให้คนเหล่านั้นลุกขึ้นยืนและเริ่มต้นสู้ใหม่อีกครั้ง
คลิปวิดีโอการขึ้นพูดเพื่อให้กำลังใจของเค้านับเป็นวิดีโอที่ช่วยให้คนนับล้าน รวมถึงผมได้หันมามองตัวเองแล้วคิดใหม่ว่า ทำไมเราต้องรู้สึกแย่ขนาดนี้ ในเมื่อนิคน่าจะต้องเจอเรื่องราวที่แย่กว่าเราไม่รู้ตั้งกี่เท่ายังผ่านมาได้ แล้วคนแบบเราที่เกิดมาครบทุกอย่างทำไมต้องรู้สึกท้อแท้ขนาดนั้น เราต้องผ่านมันไปได้สิ !!
ด้านล่างนี้ผมได้แนบวิดีโอที่ทำให้ผมลุกขึ้นสู้ใหม่ ในวันที่ผมรู้สึกแย่ที่สุดมาให้ด้วยครับ ผมอยากให้ทุกคนได้ลองดูจริงๆครับ
สำหรับใครที่กำลังรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่แย่ที่สุด เป็นช่วงที่แย่ที่สุดในชีวิต ผมอยากบอกว่าอย่าเพิ่งยอมแพ้ครับ เชื่อผมเถอะครับว่าปัญหาในวันนี้จะเป็นเพียงปัญหาเล็กๆถ้าคุณสามารถที่จะผ่านมันไปได้ ผมเชื่อว่าทุกๆคนเคยเจอกับปัญหาใหญ่ๆกันมาแล้ว แต่หลังจากที่เราผ่านมันมาได้ บางทีเรามานึกย้อนกลับไป ปัญหาเหล่านั้นกลับกลายเป็นเรื่องที่เล็กมากๆไปเลยจริงไหมล่ะครับ บทความในวันนี้ผมเองต้องการจะให้กำลังใจผู้ที่กำลังหมดหวังหรือท้อแท้ รวมทั้งอยากบอกทุกคนว่าหากคุณมีฝันจงอย่าหยุดที่จะวิ่งตามฝันครับ เพราะนิคได้พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่าฝันของเค้าได้กลายเป็นจริงได้ถึงแม้จะมีอะไรเข้ามาเป็นอุปสรรคก็ตาม