ปกติแล้วหากเราต้องการที่จะเล่นเปียโนเป็น เราก็จำเป็นที่จะต้องไปเสียเงินเข้าคอร์สการเรียนเปียโนตามสถาบันดนตรีต่างๆใช่ไหมล่ะครับ แต่สมัยนี้การเรียนเปียโนอาจจะไม่จำเป็นต้องไปเสียเงินมากมายในการเข้าเรียนตามคอร์สต่างๆแล้วล่ะครับ เพราะการเรียนเปียโนอาจจะมาพร้อมกับเจ้าเปียโนตัวใหม่อย่าง The ONE นั่นเองครับ
นับเป็นเวลาหลายปีมาแล้วครับ ที่บริษัทต่างๆพยายามที่จะพัฒนาในเรื่องของการทำเปียโนที่ช่วยให้ผู้ที่ซื้อไปสามารถเรียนได้จากเปียโนเลย อย่างที่เราเคยเห็นว่ามีเปียโนที่มาพร้อมกับไฟ LEDs ที่จะช่วยให้ผู้เรียนรู้ได้ว่าควรจะวางนิ้วหรือกดไปที่ตัวไหนครับ แต่อย่างไรก็ตามเจ้าวิธีการดังกล่าวนี้ดูจะไม่ค่อยละเอียดเท่าที่ควร จึงไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนักในการนำมาฝึกสอนผู้เริ่มเล่นเปียโน
แต่สำหรับสมาร์ทเปียโนอย่าง The ONE นั้นเรียกได้ว่าก้าวล้ำเหล่ารุ่นพี่ที่ออกมาก่อนหน้านี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ เพราะเปียโนตัวนี้จะมาพร้อมกับบทเรียนสอนเล่นเปียโนมาในตัวเลยครับ นอกจากนี้ผู้ที่สั่งซื้อสามารถเลือกได้ 2 เวอร์ชั่นครับคือ Full-Size 88 คีย์พร้อมกับ Weighted keys และแบบ Light ที่มีทั้งหมด 66 คีย์และไม่มี Weighted keys ครับ
ทั้งนี้บทเรียนดังกล่าวสามารถดาวน์โหลดได้โดยตรงจาก iOS App Store โดยจะมีเนื้อหาเป็นผู้ฝึกสอนในคลิปวิดีโอ และในการสอนก็จะสามารถเลือกได้ว่าจะให้มีไฟ LEDs ตามคีย์หรือไม่มีก็ได้ ทำให้การฝึกสอนที่เกิดขึ้นนี้เหมือนกับมีคุณครูมานั่งสอนอยู่ข้างๆเลยทีเดียว
ในส่วนของการเชื่อมต่อใน The ONE จะใช้เป็นแบบ USB 3.0 นะครับซึ่งแปลกไปจากเปียโนตัวอื่นๆ โดยจะเป็น USB 3.0-B connector ซึ่งเราก็ไม่แน่ใจนักว่าทำไมบริษัทถึงเลือกใช้เป็น USB 3.0-B connector แทนที่จะเป็น USB A ที่สามารถหามาใช้งานได้ง่ายกว่า
และสำหรับแอพที่จะมาพร้อมกับเปียโน The ONE คือแอพ The ONE Smart Piano ครับ โดยแอพจะอนุญาติให้คุณเลือกระหว่าง Video Tutorials, การฝึกฝนโดยมีไฟ LEDs นำทาง และเกมส์ KARA ครับ และที่น่าสนใจมากๆคือเจ้าเกมส์ KARA นี่แหละครับเพราะมันคล้ายๆกับเกมส์แนว Guitar Hero เลยครับที่จะมีคีย์ต่างๆล่วงลงมา ผู้เล่นก็กดตามให้ทันคราวนี้ก็จะเหมือนเล่นเปียโนจริงๆเลยครับ ไม่ใช่การเล่นผ่านคอมพิวเตอร์อีกต่อไป
นอกจากฟีเจอร์ต่างๆที่เราได้กล่าวมาทั้งหมดแล้ว The ONE เองก็มีจุดอ่อนอยู่เช่นกันนะครับ อย่าง The ONE ที่เป็นเวอร์ชั่น Full-sized ที่มี 88 คีย์จะไม่สามารถเปลี่ยนโทนเสียงได้ แตกต่างจากในเวอร์ชั่น Light ที่สามารถเปลี่ยนโทนเสียงได้ครับ แต่ไม่แน่ว่าอาจจะมีอะไรอััพเดทเพิ่มเติมในอนาตคก็เป็นได้ครับ
สำหรับใครที่ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการสั่งซื้อ The ONE สามารถเข้าไปได้ที่ Indiegogo เลยครับ
ที่มา : appleinsider