การแบน TikTok ในสหรัฐอเมริกากำลังสร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมโซเชียลมีเดียทั่วโลก เนื่องจาก TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก โดยเฉพาะในอเมริกาที่มีกลุ่มผู้ใช้งานหนาแน่น การแบนดังกล่าวส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค นักสร้างคอนเทนต์ และแบรนด์ต่างๆ ที่อาศัยแพลตฟอร์มนี้ในการทำการตลาด
สาเหตุการแบน TikTok
สหรัฐฯ ให้เหตุผลหลักในการแบน TikTok เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้และความสัมพันธ์ของบริษัทแม่ ByteDance กับรัฐบาลจีน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความมั่นคง นอกจากนี้ยังมีประเด็นเกี่ยวกับการควบคุมอัลกอริทึมที่อาจส่งผลต่อความคิดเห็นและพฤติกรรมของผู้ใช้
ผลกระทบต่อผู้ใช้งานและธุรกิจ
การแบน TikTok ทำให้ผู้ใช้ในอเมริกาต้องหาทางเลือกอื่น เช่น Instagram Reels, YouTube Shorts และ Snapchat Spotlight ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มต่างแข่งขันกันเพื่อดึงดูดผู้สร้างคอนเทนต์ TikTok เคยเป็นแหล่งรายได้สำคัญสำหรับครีเอเตอร์และแบรนด์ โดยมีการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างและเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ การหายไปของ TikTok ทำให้ธุรกิจต้องปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่ทั้งหมด
โอกาสสำหรับแพลตฟอร์มคู่แข่ง
หลังการแบน TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นรายอื่น ๆ กำลังใช้โอกาสนี้ในการขยายฐานผู้ใช้งาน:
- Instagram Reels – แพลตฟอร์มของ Meta ที่เน้นการสร้างวิดีโอสั้นโดยใช้เครื่องมือสร้างสรรค์ที่ใกล้เคียงกับ TikTok และมีการเข้าถึงผู้ใช้งานจาก Facebook และ Instagram
- YouTube Shorts – ได้เปรียบจากฐานผู้ใช้ YouTube ที่แข็งแกร่งและมีโอกาสสร้างรายได้ที่มั่นคงจากระบบโฆษณา
- Snapchat Spotlight – ใช้กลยุทธ์การแจกจ่ายรายได้ให้กับผู้สร้างเนื้อหาเพื่อดึงดูดให้เกิดการใช้งานต่อเนื่อง
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค
การแบน TikTok ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ที่เคยใช้ TikTok เป็นแพลตฟอร์มหลักในการเสพและสร้างเนื้อหา ผลกระทบที่เกิดขึ้น ได้แก่:
– การเปลี่ยนแพลตฟอร์มไปสู่ Reels และ Shorts
• ข้อมูลจาก Barron ระบุว่า Instagram มีผู้ใช้งานประมาณ 2 พันล้านคน และประมาณ 50% ของเวลาที่ผู้ใช้ใช้บนแพลตฟอร์มนี้ถูกใช้ไปกับการดู Reels แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของ Instagram กับการผลักดันแพลตฟอร์ม Reels บนระบบของตัวเอง
• รายงานล่าสุดระบุว่า Instagram เองกำลังพัฒนาแอบพิลเคชั่นใหม่ภายใต้ชื่อ Edits ที่จะใช้สำหรับการตัดต่อวิดีโอ ซึ่งพร้อมจะมาเป็นตัวตายตัวแทน CapCut จาก Byte Dance ที่จะถูกแบนตามกันไปกับ TikTok หลังจากมีการบังคับใช้กฎหมาย
• Barron ยังมีการเผยสถิติอีกว่า YouTube Shorts มีผู้ใช้งานประมาณ 2 พันล้านคน ซึ่งเทียบเท่ากับจำนวนผู้ใช้งานของ TikTok และแสดงให้เห็นโอกาสทางการเติบโตหากเกิดการแบน TikTok ขึ้นในภูมิภาคที่สำคัญ
– ความต้องการฟีเจอร์ที่คุ้นเคย
• ผู้บริโภคคาดหวังประสบการณ์การใช้งานที่คล้าย TikTok เช่น อัลกอริทึมที่ปรับเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจ ฟีเจอร์การตัดต่อวิดีโอขั้นสูง และฟิลเตอร์ยอดนิยม
• แพลตฟอร์มคู่แข่งเช่น Instagram และ Snapchat ได้ปรับปรุงระบบแนะนำเนื้อหาเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น
– การค้นหาแหล่งรายได้ใหม่ของนักสร้างคอนเทนต์
• นักสร้างคอนเทนต์ต้องปรับกลยุทธ์ในการหารายได้ เช่น การเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์มที่มีโปรแกรมสร้างรายได้ที่ชัดเจนมากขึ้น อย่าง YouTube Partner Program ที่ให้ผลตอบแทนจากโฆษณา
• ครีเอเตอร์หลายคนเริ่มสร้างชุมชนของตนเองผ่านแพลตฟอร์มเช่น Patreon หรือ Substack เพื่อลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
อนาคตของตลาดวิดีโอสั้น
อนาคตของตลาดวิดีโอสั้นยังคงสดใสแม้ TikTok จะเผชิญกับข้อจำกัด เนื่องจากแนวโน้มการบริโภคเนื้อหาที่กระชับและเข้าถึงได้ง่าย ยังคงเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ใช้ทั่วโลก โดยมีปัจจัยที่ส่งผลต่อทิศทางของตลาดดังนี้:
1.การลงทุนจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่
• Meta และ Google ลงทุนมหาศาลในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อพัฒนาอัลกอริทึมแนะนำวิดีโอที่มีความแม่นยำมากขึ้น และเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้
• Snapchat เปิดตัวฟีเจอร์ Spotlight ที่ให้รางวัลเป็นเงินสดเพื่อจูงใจให้ครีเอเตอร์ผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพ
2.แนวโน้มของวิดีโอแบบ AI-Generated Content
• เทคโนโลยี AI จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสร้างเนื้อหาอัตโนมัติ นักการตลาดและผู้สร้างคอนเทนต์จะสามารถสร้างวิดีโอที่มีประสิทธิภาพสูงได้ง่ายขึ้นผ่านเครื่องมือ AI เช่น ChatGPT หรือ Sora ของ OpenAI
3.การเติบโตในตลาดใหม่
• ตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และละตินอเมริกาแสดงศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยแพลตฟอร์มท้องถิ่น เช่น Likee และ Zynn กำลังขยายการเข้าถึงไปยังกลุ่มผู้ใช้ใหม่ ๆ
• TikTok อาจมุ่งเน้นไปที่ภูมิภาคที่มีกฎระเบียบน้อยลง เช่น แอฟริกาและตะวันออกกลาง เพื่อชดเชยรายได้ที่สูญเสียไปจากตลาดตะวันตก
4.การปรับเปลี่ยนกฎระเบียบด้านความปลอดภัยข้อมูล
• ความกังวลเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลจะกระตุ้นให้แพลตฟอร์มโซเชียลต้องปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนด เช่น GDPR ในยุโรป และกฎหมายความเป็นส่วนตัวของรัฐแคลิฟอร์เนีย
บทสรุป
การแบน TikTok ของสหรัฐฯ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมโซเชียลมีเดีย แม้จะเป็นความท้าทายสำหรับนักการตลาดและผู้ใช้งาน แต่ก็เปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับแพลตฟอร์มคู่แข่งที่พร้อมจะเข้ามาเติมเต็มช่องว่างนี้