แหล่งข่าวจาก The Information รายงานสถานการณ์การปรับตัวของ TikTok ในการเพิ่มยอดผู้เข้าชมและจำนวนการสร้างคอนเทนต์เข้าระบบ ที่เริ่มมีอัตตราลดลงเล็กน้อยสำหรับกลุ่มผู้ใช้อายุ 18 ปีในโซนประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยปัญหาสองประการใหญ่
ปัญหาหนึ่งนั้นคือการถูกกดดันจากหน่วยงานรัฐ ด้วยข้อกล่าวหาว่าอาจเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติ และผลักดันห้ามใช้ TikTok บนอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐ และอีกปัญหาคือจำนวนรายได้ของเหล่าครีเอเตอร์ที่ทำคอนเทนต์ลงแพลตฟอร์ม Tiktok พวกเขาได้ค่าตอบแทนกลับมาเป็นจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับยอดรับชมและจำนวนผู้ติดตามที่มี เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่นเช่น Youtube
ฉะนั้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ข้อมูลขขากแหล่งข่าวบอกว่า TikTok กำลังพัฒนาฟีเจอร์ในลักษณะที่เรียกว่า Paywall ซึ่งจะอนุญาตให้ผู้ผลิตคอนเทนต์เรียกเก็บเงิน 1 ดอลลาร์ (หรือตามราคาที่พวกเขาต้องการ) เพื่อเข้าถึงวิดีโอที่ถูกปิดกั้นไว้ เป็นวีดีโอพิเศษเฉพาะผู้ชำระเงินจ่ายเท่านั้นที่จะได้รับชม แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าระบบนี้จะทำงานอย่างไร แต่สิ่งนี้จะช่วยให้อินฟลูเอนเซอร์ผู้ผลิตคอนเทนต์ได้เงนิโดยตรงจากคลิปที่น่าสนใจของพวกเขา
และ TikTok ยังพิจารณาปรับปรุง Creator Fund หรือการจ่ายเงินรายได้ให้กับผู้สร้างคอนเทนต์ใน TikTok ที่มีจำนวนผู้ติดตามถึงเกณฑ์กำหนดให้มากขึ้น แต่จะมีการเพิ่มระดับจำนวนผู้ติดตามขั้นต่ำที่สูงมากขึ้น (ตามข่าวคือขยับจาก 10,000 เป็น 100,000 คน) แต่ก็จะสามารถจ่ายเงินและมอบสิทธิ์ให้ผู้สร้างคอนเทนต์ได้มากขึ้นเช่นกัน
กองทุนใหม่และระบบใหม่นี่ อาจเป็นการออกแบบเพื่อจูงใจผู้ใช้งานที่สามารถสร้างวิดีโอได้ความยาวจำกัดสูงสุดถึง 10 นาที ที่เพิ่งเพิ่มขึ้น
ยังไม่ชัดเจนว่าระบบ paywall จะพร้อมใช้งานเมื่อใด แต่รายได้ใหม่ Creator Fund ที่ปรับแก้ไขใหม่อาจเปิดตัวได้เร็วที่สุดภายในเดือนมีนาคม โดยมีรายงานว่าบริษัท Tiktok มีการทดสอบระบบรายได้ใหม่อยู่ในขณะนี้แล้วสำหรับผู้ผลิตคอนเทนต์บางรายในประเทศบราซิลและฝรั่งเศส
แต่ไม่ว่าที่อื่นจะเป็นอย่างไรก็ตาม แต่อนาคตของ Tiktok ในประเทศสหรัฐอเมริกาขึ้นกับการพิจารณาของคณะกรรมการสภา เมื่อซีอีโอของบริษัทพร้อมที่จะให้การเป็นพยานต่อข้อกล่าวหาของอเมริกาในเดือนมีนาคม และหากไม่สามารถโน้มน้าวใจเจ้าหน้าที่ได้ กลยุทธ์การเติบโตในสหรัฐใดๆ ก็คงจะไม่มีผลแล้วละครับ