วันนี้เว็บไซต์ Neowin ได้นำเอาบทสัมภาษณ์ Tim Cook CEO คนปัจจุบันของ Apple มาสรุปให้เราได้อ่านกันครับ ซึ่งข้อความที่น่าสนใจคงเป็นส่วนของความเห็นของ Tim Cook ที่มีต่อระบบปฏิบัติการอื่นๆอีก 2 รายในตลาด ซึ่งได้แก่ระบบ Android และ Windows phone นั่นเอง รวมถึงผู้ผลิตมือถือ Windows phone อย่าง Nokia ด้วย
โดยความเห็นของคุณ Tim Cook ต่อระบบ Android ในปัจจุบันนั้น ตัวเค้ามองว่า ปัญหา fragmentation หรือการที่มีรุ่นระบบปฏิบัติการ Android หลายๆรุ่นอยู่ในตลาดมากเกินไปนั้นเป็นปัญหาที่ยิ่งแย่ขึ้นเรื่อยๆ (compounding problem) ซึ่งสิ่งนี้ส่งผลต่อช่องโหว่ในระบบรักษาความปลอดภัยที่ระบบ Android มีช่องโหว่มากกว่าระบบอื่นๆในตลาด โดยคุณ Time Cook ยังบอกอีกว่า ทุกวันนี้เรายังเห็นผู้ใช้ระบบ Android กว่า 31% ที่ยังใช้ Android เวอร์ชั่น “Gingerbread” ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2010
นอกจากนี้ในส่วนของนักพัฒนา Tim Cook ยังชี้ให้เห็นอีกว่า
ถึงแม้ยอดการดาวน์โหลดแอพใน Play Store ของ Android จะสูงกว่าบน App Store ของ Apple แต่ว่าถ้ามองในแง่ของการสร้างรายได้แล้ว App Store สามารถสร้างรายได้ที่สูงกว่าของ Play Store ถึง 2.5 เท่า สาเหตุหลักเป็นเพราะนักพัฒนานักพัฒนาฝั่ง Android แข่งกันเรื่องทำราคาให้ต่ำมากเกินไป และนั่นก็เป็นสาเหตุให้นักพัฒนาส่วนมาก เลือกที่จะมองระบบบ iOS เป็นระบบหลักในการพัฒนาแอพก่อน จากนั้นถึงจะพิจารณานำแอพไปลงในระบบ Android และระบบอื่นๆ
แต่จุดที่น่าจะแรงที่สุดในบทสัมภาษณนี้น่าจะเป็นช่วงที่คุณ Tim Cook พูดถึง Nokia ซึ่งคุณ Tim Cook ได้พูดถึง Nokia เอาไว้ดังนี้
ตัวเค้าเองยังจำได้ถึงวันที่ Nokia ครองตลาดมือถืออย่างยิ่งใหญ่ ในวันที่ Apple เข้าสู่ตลาดมือถือ นั่นเป็นการก้าวเข้าสู่โลกของ Nokia ซึ่งไม่มีใครคาดคิดว่า Nokia จะร่วงจากการเป็นผู้นำได้อย่างไร
คุณ Tim Cook ยังได้กล่าวต่อไปอีกว่า Nokia เป็นตัวอย่างที่ดีที่จะเตือนใจให้คนในธุรกิจนี้รู้ว่า เราต้องคิดค้นนวัตกรรมใหม่เสมอ ถ้าเราหยุดสร้างนวัตกรรม นั่นเท่ากับเรากำลังจะตาย (not innovate is to die)
และ Tim Cook ยังได้กล่าวถึงทั้ง Microsoft และ Google ว่า กำลังลอกแนวทางกลยุทธการตลาดของ Apple ในแง่ของการที่มีผู้ผลิตมือถือของตัวเอง (1st party hardware) โดย Google เองก็ซื้อกิจการของ Motorola ไป ส่วน Microsoft เองก็เพิ่งประกาศซื้อ Nokia ไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งตรงนี้ Tim Cook มองว่าเป็นการเดินตามรอยความสำเร็จที่ Apple ได้ทำเอาไว้ก่อนหน้า
อ่านแล้ว..ก็รู้สึกว่า เป็นการให้สัมภษณ์ที่ตรง แรง และเจ็บจิ๊ดดีทีเดียวครับ
ที่มา: Bloomberg Business Week ผ่าน Neowin