Tips : เทคนิค Line Rangers เล่นอย่างไรให้เทพเกินเลเวล
Line Rangers อีกหนึ่งเกมสุดฮิตสำหรับชาว Line ที่นับเป็นเกมที่ประสบความสำเร็จไปแล้วสำหรับยอดดาวน์โหลดและจำนวนผู้เล่นในบ้านเราครับ ด้วยรูปแบบการเล่นง่ายๆ ไม่รีบร้อน เน้นการวางแผนและใช้เวลาในการเล่นแต่ละครั้งไม่มาก แต่ในความเป็นจริงนั้น “ความง่าย” ของตัวเกมก็เป็นแค่สิ่งล่อใจในช่วงแรกเท่านั้นแหละครับ เพราะในช่วงที่เราเริ่มติดพันงอมแงม ตัวเกมจะค่อยๆ เพิ่มความยาก และต้องอาศัยความเข้าใจในตัวเกมพอประมาณ ถึงจะสามารถผ่านความท้าทายแต่ละด่านไปได้ในช่วงท้ายๆ ของเกม
วันนี้ผมขออนุญาตนำความเข้าใจแบบประสบการณ์ 10 วัน ที่มาหัดเล่น Line Rangers จนพิชิตถึงด่านสุดท้ายได้ในเวลาอันสั้นๆ พร้อมเทคนิคการเล่นแบบเลเวลน้อยก็ท้าชนรุ่นใหญ่ได้ แต่อาจจะต้องใช้สมองในการเล่นกันสักหน่อย เลยขอปล่อยแบ่งบันทิปเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ มาฝากกันเพื่อร่วมกันพัฒนาฝีมือครับ ^^
เทคนิค1 การเลือกใช้ และการปล่อยตัวเรนเจอร์
สิ่งแรกที่ผู้เล่นควรจะเข้าใจในตัวละครมีหลายเรื่องครับ แต่จะมีส่วนที่สำคัญจริงๆ นั้น ไม่กี่ประการ สิ่งแรกนั้นเลยคือ รูปแบบตัวละคร ถ้าเราจะสังเกตภายในข้อมูลตัว Ranger ที่เราเลือกมาใช้จะมีการระบุชนิดเอาไว้ให้เห็นอย่างชัดเจน สิ่งที่ผู้เล่นควรเข้าใจถ้าคิดจะเล่นให้ได้ระดับสูงๆ นั้นคือ การเข้าใจรูปแบบตัวละครและการวางแผนปล่อยตัวละครนั้นออกไปต่อสู้ จะปล่อยออกไปอย่างไรให้ได้ผลมากที่สุดครับ
เทคนิคการเลือกใช้และการปล่อยตัวป้องกัน
การปล่อยตัวแทงค์ หรือ กำแพงในกรณีศัตรูเริ่มไม่หมูอย่างที่คิด – พวกนี้คือพวกเลือดเยอะ อึด ถึก พลังในการโจมตีเป็นเรื่องรองลงไป (ถ้าโจมตีแรงได้ถือว่าเป็นของแถมที่โชคดี) เป็นตัวสำคัญอันดับแรกๆ ของทีม หน้าที่หลักคือการเป็นกำแพงแนวปะทะสกัดการเดินรุกหน้าของฝั่งตรงข้าม ฉะนั้นหน้าที่ของตัวละครนี้ “คือการหยุด” จากที่ดูแล้วอาจจะเป็นตัวเรนเจอร์ชนิดพลังชีวิต บาลานซ์ หรือความเร็ว (เช่นชิชิ ที่เป็นตัวสายบาลานซ์ หรือบราวมวยไทยที่เป็นประเภทความเร็ว แต่ความถึกทนหวังพึ่งได้) ตราบใดที่เราเล่นแล้วเจ้าตัวละครนี่ยังหยุดศัตรูในแนวปะทะได้ถือว่าผ่าน! ถ้าเริ่มหยุดไม่ได้แสดงว่าสอบตก! หน้าที่ง่ายๆ ที่ไม่ต้องไปมองหาข้ออื่นมาพิจารณา แต่เมื่อมีตัวละครที่สามารถหยุดคู่ต่อสู้ได้มากกว่าหนึ่งตัวให้เราเลือกในทีมของเรา ก็เลือกตัวที่มีคุณสมบัติที่ดีกว่าครับ เช่นโจมตีได้แรงกว่า หรือเดินเร็วกว่าเป็นต้น
บางคนเข้าใจผิดคิดว่ากำแพงที่หนาคือความได้เปรียบและความอุ่นใจ จึงปล่อยตัวกำแพงออกไปเยอะๆ เป็นฝูงๆ อัดเข้าไปให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ อาจจะเป็นแผนที่ใช้ได้ดีในช่วงแรกๆ หรือเจอคู่ต่อสู้ที่อ่อนแอกว่า จนว่าคุณจะเริ่มเจอศัตรูที่มีความสามารถในการ “โจมตีหมู่” หรือตัวละครโจมตีประเภท “สแปลช” นั้นเองครับ พวกนี้มีความสามารถโจมตีเป็นวงกว้าง เรามักจะได้เจอในด้านหลังๆ ไม่ว่าตัวละครใดที่อยู่ในรัศมีการโจมตีก็ถือว่าโดนหมด ฉะนั้นการเอาตัวละครฝูงใหญ่ไปสุมรวมกันเป็นก้อนเดียว ก็เหมือนเอาแร่ที่ซื้อตัวละครไปกองให้เขาผลาญทีละมากๆ นั้นเองครับ ฉะนั้นการปล่อยตัวกำแพงให้ได้เปรียบในการเล่นช่วงหลังๆ ต้องออกไปแต่เพียงพอดี สามถึงสี่ตัว คอยดูให้วนเวียนอยู่จำนวนเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว เอาแร่ที่ได้ไปซื้อตัวโจมตีลดจำนวนศัตรูลงจะได้เปรียบกว่ามากครับ
การเลือกใช้และการเลือกปล่อยตัวโจมตี
เห็นเพื่อนๆ หลายคนติดใจตัวละครประเภทสแปลชในการใช้เป็นตัวละครโจมตีหลัก ก็มีเหตุผลในส่วนนึงครับ เพราะในความเป็นจริงในตอนเล่น น้อยครั้งมากที่ตัวละครฝ่ายศัตรูจะออกมาลำพังเพียงตัวเดียวหรือสองตัว เพราะมักจะออกมาเป็นฝูง เป็นก้อน ตัวละครสแปลชจึงมีประโยชร์มากเพราะโจมตีได้เป็นรัศมีวงกว้าง ยิ่งอยู่เป็นฝูงซ้อนๆ ทับๆ กันยิ่งคุ้มในการใช้งานพวกสแปลช ยิ่งพวกสแปลชที่โจมตีได้แรงๆ เร็วๆ คนยิ่งชอบ แต่!
พวกโจมตีสแปลชนั้นยังมีข้อแตกต่างในแต่ละตัวละครให้เราพิจารณามากกว่าตัวเลขการโจมตีด้วยนะครับ
อย่างแรกเลยนั้นคือ “ระยะโจมตี” – ระยะโจมตีของตัวละครใน Line Rangers จะมีอยู่สักประมาณ 7 ระดับครับ ตั้งแต่ประจันหน้าชิดข้าศึกแบบปากประกบปาก เขยิบไปทีละนิดจนถึงระยะไกลลิบหลุดฉาก เห็นแต่อาวุธที่ส่งมาระยะไกลๆ ระยะโจมตีเหล่านี้มีผลกับความปลอดภัยของตัวละครครับ ยิ่งคุณอยู่ใกล้ข้าศึกมาก ก็มีโอกาสจะตายได้ง่าย โดยเฉพาะในเกมช่วงหลังๆ การโจมตีของศัตรูจะกินระยะกว้างมาก แค่เข้าใกล้แนวชายแดนหน่อยก็โดนตีตายแล้ว ถ้าไม่อึดถึกพอก็ไม่สามารถแสดงความสามารถในการโจมตีได้เลย ส่งไปก็ตายเปล่าแบบไม่ทันออกอาวุธครับ (เช่นตัวเชริน่า วิ่งเร็ว โจมตีหมู่ในระยะประชิด แต่อ่อนแอ หมดสิทธิโชว์ผลงานในช่วงท้ายเกม) ฉะนั้นเลือกตัวโจมตีที่มีระยะโจมตีที่ไกลจากแนวหน้าสักหน่อย ประมาณสักระดับสามช่องขึ้นไป (อย่างพวก Cony หรือ เอริก้า) เป็นต้น เพราะส่วนใหญ่ตัวโจมตีมักจะมาพร้อมกับความอ่อนแอทางร่างกายนั้นเองครับ
อย่างทีสอง “ขอบเขตการโจมตี” ขึ้นชื่อว่า “สแปลช” เหมือนกัน แต่ขอบเขตการโจมตีต่างกันมากก็มีครับ บางตัวละครโจมตีหมู่แบบสแปลชแต่ครอบคลุมพื่นที่เพียงหนึ่งช่องเท่านั้น ตัวละครฝ่ายศัตรูต้องยืนอยู่รวมกันซ้อนทับกันในช่องเดียวเท่านั้นถึงเราถึงจะโจมตีได้โดนหมด ซึ่งในด่านหลังๆ เราจะเจอกับการแก้ทางของผู้ออกแบบเกม ให้ตัวละครโจมตีของฝ่ายตรงข้าม อยู่หลังตัวกำแพงเป็นช่วงห่างในระดับหนึ่ง ฉะนั้นตัวสแปลชที่ดีต้องมีการโจมตีหมู่ที่กินบริเวณกว้างกว่าหนึ่งช่องขึ้นไป ยิ่งไกลยิ่งดีครับ บางตัวละครโจมตีทีทะลุไปสี่ห้าช่อง( เช่นเจ้าหนอนเอ็ดเวิร์ด หรือลุง k ขวัญใจมหาชน) เพราะจะเป็นการลดจำนวนศัตรูในแนวหลังของฝั่งตรงข้ามลงได้ไปในตัว ซึ่งตรงนี้สำคัญมากในการเล่นในฉากหลังๆ ครับ
ในกรณีสุดท้าย “คือการเลือกใช้ตัวเรนเจอร์ในสายโจมตี” โดยเน้นที่ความแรงของพลังโจมตีสูงสุด ไม่หวังเรื่องการโจมตีหมู่ (ตัวอย่างเช่น มอลลี่หรือดัมบี่ ที่มีพลังโจมตีสูงสุดกว่าสี่แสนพ้อยน์) ใช้ได้ผลมากในกรณีเจอด่านที่มีบอสสายพันธุ์ซุปเปอร์ถึกเป็นกำแพง (เช่นด่าน 132) ถ้าเรามีตัวละครที่มีความสามารถเจาะจงในด้านโจมตีหนักๆ จะช่วยได้มากครับ หรือแม้แต่การเล่นแบบโหมดการต่อสู้กับเพื่อนๆ ถ้าเราเจอคู่ต่อสู้ที่มีตัวกำแพงหนาใกล้เคียงกัน การที่เรามีตัวสายโจมตีสุดโหดโดยตรงหนุนอยู่ด้านหลังผสมผสานเข้าไปในทีมด้วย จะเกิดผลต่างในการปะทะได้ชัดเจนเลยครับ นี่เป็นเคล็ดลับอีกเล็กน้อยในการเลือกตัวละครเล่นแบบเฉพาะทางนั้นเองครับ ชัยชนะแบบติดต่อกันก็ไม่ใช่เรื่องยาก
เทคนิคที่ 2 การตั้งทีม
ทีมเรนเจอร์ที่พร้อมออกปฎิบัติภารกิจและเก็บเลเวล เราสามารถใส่ได้สูงสุด 5 ตัวในหนึ่งทีม แต่! ไม่มีข้อผูกมัดใดๆ ที่เราจำเป็นต้องใส่เข้าไปให้ครบ 5 ตัวก่อนลงสนามครับ บางครั้งที่เราไม่ได้ต้องการเน้นเก็บเลเวลให้มากนัก เลือกใช้งานแค่เพียงตัวหลักๆ จะเกิดประโยชน์สูงสุดในการต่อสู้มากกว่าครับ
สิ่งที่ต้องพิจารณาคือสายการต่อสู้ของแต่ละตัว ครอบคลุมที่ต้องการหรือยัง ยกตัวอย่างทีมที่ผมตั้ง มีหนึ่งตัวเป็นกำแพง (บราวน์) อีกหนึ่งตัวเป็นสแปลชประหยัดแร่ที่ออกได้ไว (Cony) และอีกหนึ่งตัวโจมตีระยะไกลแบบอาวุธหนักที่ใช้แร่แพงสักหน่อย (เอริก้า) เมื่อทั้งสามตัวสามารถสอดประสานและรีโหลดทันในการออกตัวละครแล้วละก็ การใส่ตัวละครอื่นๆ ที่ด้อยกว่าเข้าไปจะทำให้ประสิทธิภาพของทีมในการเปิดโหมดการเล่นแบบ Auto ด้อยลงได้ครับ
แต่ในกรณีเล่นด้วยตนเอง เราแค่ใส่ตัวละครที่เหลือเข้าไปเพื่อให้มันได้เก็บเลเวลไปด้วยในตัวเท่านั้น โดยไม่จำเป็นต้องปล่อยตัวเรนเจอร์ออกไปสู้ให้ครบทุกตัวที่เรานำมา เน้นออกตัวที่เกิดประโยชน์สูงสุดเท่านั้น โดยเฉพาะในด่านหรือคู่ต่อสู้ที่ตรึงมือ แร่แต่ละหน่วยมีค่าและเป็นตัวกำหนดผลแพ้ชนะในท้ายเกมครับ
เทคนิคที่ 3 แนวทางการเล่นคร่าวๆ สำหรับถึงด่านสุดท้ายได้ในเวลาสิบวัน
อยากเล่นให้สนุก ต้องมีเป้าหมายครับ ^^ เรามากำหนดช่วงเวลาคร่าวๆ กันดีกว่าว่า สิบวันจากวันนี้ เราจะไปถึงด้านสุดท้ายให้ได้ ต้องทำอย่างไรบ้าง
1. ใช้ประโยชน์จากอีเวนท์ทุกๆ อีเวนท์ – สำคัญมากครับ ลำพังการเล่นแบบปกติไม่สามารถพาเราไปถึงไหนได้เลย ไม่ว่าจะเป็นจำนวนขนนกที่ต้องใช้ในการเล่น หรือตัวเรนเจอร์พิเศษที่ดีกว่าตัวเรนเจอร์ปกติในเกมมากมาย ดังนั้นไม่ว่าทางผู้บริการเกมจัดอีเวนท์ให้ทำอะไรก็ตาม ร่วมล่ามาให้หมดทุกๆ อย่างครับ จะช่วยคุณได้มากในการเล่นช่วงแรกๆ รวมถึงเป็นการสะสม Ruby เอาไว้ที่คุณต้องใช้แน่ๆ ในช่วงหลัง
2. ซื้อกระป๋อง EXP เพิ่มไว้ซะ ถ้าวันนี้คุณตั้งใจจะเล่นยาว เอาแบบ 1 วันไปเลย เลเวลจะได้อัพง่ายแบบต่อเนื่อง โดยเฉพาะในอีเวนท์วันอังคารที่เพิ่ม EXP สองเท่าทั้งวัน
3. อัพเกรดแต่การผลิตแร่เท่านั้นก่อน ฐานกับมิสไซด์มองข้ามไปเลย ไว้ไปอัพในช่วงหลังที่จำเป็น
4. ใช้ Ruby ที่มีหมุน Gacha เฉพาะช่วงที่มีอีเวนแจกตัวละครหรือเพิ่มโอกาสรับตัว 5 ดาว จะทำให้คุณประหยัดได้มากๆ เพราะการได้ตัวละครดีๆ มาสักสองสามตัว ก็มีผลอย่างมากแล้วในการเล่น
5. อย่าเสียเวลากับด่านแรกๆ เล่นผ่านๆ ไปเลยครับ มันจะง่ายมากๆ โดยเฉพาะถ้าคุณร่วมเล่นอีเวนท์แล้วได้ตัวละครพิเศษมาช่วยแล้ว เล่นให้ผ่านๆ ไป สิ่งสำคัญคือการคำนวนขนนกให้พอดี เพราะในแต่เลเวลเราจะได้ขนนกมาเติมเต็มได้ 5 อัน ให้เราใช้ไปให้หมดครับ และเมื่อไม่พอ ค่อยใช้สิ่งอื่นๆ แลกมา เช่นแต้ม F ให้เราแลกมาเพียงพอดีเพื่อผ่านเลเวลเท่านั้น จะคุ้มค่ากว่า และเป็นการเพิ่มความต่อเนื่องในการเล่นอีกด้วย
6. เริ่มทบทวนทีมเมื่อถึงด่าน 73 เป็นเวลาที่ต้องเริ่มเตรียมพร้อมแล้วครับ เป็นช่วงขีดสุดที่ตัวละครสามดาวหรือสี่ดาวบางตัว ที่เราทนๆ ใช้มาเริ่มที่จะไปไมไหวอีกต่อไป ในช่วงเลเวลนี้มีตัวละครที่พอใช้ได้หนึ่งตัวให้เก็บครับ นั้นคือ “มังกรซอล” อึดพอใช้ โจมตีหมู่ เป็นตัวแนวหน้าที่จะช่วยได้ในระยะกลางเกม เก็บเลเวลช่วงแผนที่บริเวณนี่ พร้อมกับเก็บมังกรซอลให้เป็นหัวหน้า (ผสม5 ตัว)
7. มาถึงเลเวล 100 จำเป็นต้องอัพเกรดฐานขึ้นมาบ้างแล้ว เพื่อให้ทนการโจมตีของบางตัวละคร ที่ต่อไปนี้จะมีตัวที่โจมตีเป็นวงกว้างระยะไกล และบางตัวจะทะลุถึงฐานเราได้เลย
8. แวะพักเก็บ มูนใส่หน้ากาก จากด่าน112 เป็นต้นไปเสริมทัพ ถ้ายังไม่มีตัวดีๆ ไว้ใช้งานเลย เอาไว้แก้ขัดได้ในช่วงนี้ครับ
9. ระหว่างนี้ ในอีเวนท์เพิ่มโอกาสรับสมบัติทุกๆ วันพุธ ให้เราย้อนกลับไปเล่นด้านที่ยังไม่ได้สมบัติระดับ 3 ดาวครับ เพื่อเพิ่มความสามารถให้ตัวละคร
10. ตัวละครที่เริ่มได้มามากมาย ขายทิ้งสำหรับตัวละครต่ำกว่าสามดาวที่ไม่ได้ใช้ เก็บสี่ดาวขึ้นไปไว้สำหรับการใช้รวมร่าง (แนะนำให้เก็บเงินให้มาในอีเวนท์ได้เงินสองเท่าในวันพฤหัส เพื่อมาใช้รวมร่างตัวละครในวันศุกร์สำหรับอีเวนท์เพิ่ม EXP สองเท่าในการรวมร่าง)
11. ในด่าน 124 ขึ้นไป ให้เก็บตัว Cony ผู้วิเศษเอาไว้ใช้งาน เป็นตัวเรนเจอร์สายสแปลชฟรี ที่มีความสามารถพอจะใช้งานได้ไปยันด่านสุดท้ายของเกมเลยครับ ถ้าเก็บเลเวลในช่วงแผนที่นี้ เอา Cony ให้ได้ห้าตัวไปเลยเพื่อผสมเป็นระดับหัวหน้า ได้ใช้งานแน่ๆ ครับ
12. ข้อสุดท้าย นับตั้งแต่ด่านต่อไปนี้จนถึงด่านสุดท้าย 144 คือความโหดหิน เตรียมเพื่อนๆ เลเวลสูงๆ ของคุณให้พร้อมในทุกๆ ด่าน พยายามใช้เทคนิคจากข้อมูลที่แนะนำไปด้านบนเพื่อจัดทีมและเลือกใช้ตัวละคร อย่า “งกไอเท็ม” และที่สำคัญ อาจจะถึงเวลาที่คุณต้องควักเงินเติมซื้อ Ruby แล้วละครับถ้าคิดจะไปต่อ เพราะอาจจะเกินกำลังตัวละครฟรีที่คุณทนใช้มาจนถึงตรงนี้
สุดท้ายความท้าทายจะกลายเป็นความสนุกได้มั้ย ก็อยู่ที่ตัวเราเองแล้วละครับ ว่าจะถูกใจแนวเกม Line Rangers นี่มากแค่ไหน หวังว่าเพื่อนๆ ที่กำลังสนใจจะได้ประโยชน์กันไปบ้างนะครับ ^^