สำหรับ Nokia Lumia 920, 925, 1020 และ 1520 ที่สามารถใช้งาน Nokia Camera ได้นั้น ผู้ใช้ก็จะพบว่าในเมนูการตั้งค่าการถ่ายวีดีโอนั้นจะมีเมนูหนึ่งปรากฏอยู่ นั่นคือ Audio bass filter ที่สามารถกรองเสียงรบกวนหรือเสียงที่ไม่พึงปรารถนาของเราได้ด้วยเทคโนโลยี Nokia Rich Recording ซึ่งเมนูนี้จะมีให้เราเลือกอยู่ 3 ค่า และควรตั้งให้เข้ากับสถานการณ์ในการถ่ายวีดีโอขณะนั้นๆ ได้ดังต่อไปนี้
1. Default(100 Hz) เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป ซึ่งระบบจะทำการตัดเสียงรบกวนต่างๆ พร้อมเน้นเสียงเบส เสียงที่เรากำลังบันทึกอยู่ให้เด่นชัดมากขึ้น
2. Strong(200 Hz) เหมาะสำหรับการใช้งานในบริเวณที่มีเสียบรบกวนสูงมากๆ เช่น ถ่ายวีดีโอบริเวณริมชายหาดที่มีเสียงลมกระแทกไมค์อยู่ตลอดเวลา หรือบนรถไฟที่เสียงดังมากๆ ระบบก็จะช่วยกรองเสียงเหล่านี้ ทำให้เสียงของสิ่งที่เราบันทึกอยู่ชัดเจนยิ่งขึ้น
3. OFF เป็นการบันทึกเสียงทุกอย่างที่ไมค์รับได้ โดยไม่กรองเสียงรบกวน เหมาะสำหรับการบันทึกเสียงและนำไปแต่งเสียงทีหลัง หรือใช้โปรแกรมในการจัดการเสียงเอง
เปรียบเทียบการตั้งค่า Audio bass filter ทั้ง 3 แบบ
.
ซึ่งทาง Nokia ก็ได้เน้นและพัฒนาระบบเสียง Nokia Rich Recording ให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปอีกครับ โดยเฉพาะ Nokia Lumia 1520 ที่จะมาพร้อมเทคโนโลยี Nokia Rich Recording เหมือน Nokia Lumia 1020 และมีไมโครโฟนแบบ HAAC (High Amplitude Audio Capture) เช่นเดียวกับ Nokia Lumia 920 ซึ่งเป็นไมโครโฟนที่สามารถบันทึกเสียงได้ที่ความถี่สูงถึง 140 เดซิเบลโดยที่เสียงที่บันทึกได้ไม่แตก ถึง 4 ตัว ถือว่าเป็นการผสมผสานที่จะทำให้ Nokia Lumia 1520 โดดเด่นด้านการบันทึกเสียงเป็นอย่างมากครับ
Nokia โชว์คุณสมบัติการบันทึกเสียงชั้นเยี่ยมด้วยสุดยอดไมค์ HAAC ถึง 4 ตัวและเทคโนโลยี Rich recording technology บน Nokia Lumia 1520