โตเกียวดิสนีย์แลนด์ และดิสนีย์ซี รวมถึง Universal Studios Japan มีแผนที่จะเปิดการให้บริการอีกครั้งเร็วๆ นี้ คาดว่าจะเป็นเดือนมิถุนานี้แหละถ้าไม่ผิดแผนซะก่อน พร้อมมาตราการป้องกันการแพร่กระจายของโคโรน่าไวรัส หรือ โควิด 19 ด้วยการขอความร่วมมือ “งดการตะโกนและกรีดร้อง” หรือ “ห้ามกรี๊ด” ในสถานที่เปิดและปิด ซึ่งหมายถึงงดแหกปาก กรีดร้องบนรถไฟเหาะ รวมถึงในบ้านผีสิงด้วย …เดี๋ยวมันทำกันได้ด้วยเหรอนี่!!
การระบาดของ “ไวรัสโคโรน่า” กระทบธุรกิจท่องเที่ยวอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมและแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ โดยเฉพาะสวนสนุกที่ต้องปิดตัวชั่วคราว รวมถึงสวนสนุกระดับโลกอย่าง โตเกียวดิสนีย์แลนด์ และดิสนีย์ซี รวมถึง Universal Studios Japan (USJ) ที่โอซาก้า โดยปิดให้บริการไปเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้ขาดรายได้มหาศาลในเดือนมีนาคม – เมษายน ที่ถือเป็นช่วง High season ที่มีผู้คนจากทั่วโลกจะมาใช้บริการสวนสนุกทั้ง 3 แห่งนี้
โดย โตเกียวดิสนีย์แลนด์ และดิสนีย์ซี รวมถึง Universal Studios Japan มีแผนที่จะเปิดการให้บริการอีกครั้ง สมาคมธีมพาร์คตะวันออกและตะวันตกของญี่ปุ่นได้เตรียมเอกสารในหัวข้อ“แนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดของการติดเชื้อของ Coronavirus” ซึ่งบอกว่ามันมีข้อตกลงของโอเรียนเต็ลแลนด์ญี่ปุ่น ที่จัดการโตเกียว ดิสนีย์แลนด์ / ดิสนีย์ซีและ บริษัท USJ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอญี่ปุ่น
โดยนโยบายที่ดูเหมือนจะง่ายและเป็นเรื่องทั่วๆ ไป เช่นการตรวจคัดกรอง วัดอุณหภูมิของผู้ใช้บริการก่อนเข้าสวนสนุก และให้ซื้อตั๋วออนไลน์แทนการซื้อตั๋วหน้าสวนสนุก เพื่อลดระยะเวลาที่ใช้ในการเข้าแถวและจัดการเงินสด พนักงานทุกคนจะต้องอยู่ในชุดที่รัดกุมใส่หน้ากากตลอดเวลา งดสัมผัสร่างกายแขก แน่นอนเราอาจจะไม่ได้เห็นรอยยิ้มภายใต้หน้ากากอนามัยแต่ยังคงให้พนักงานแสดงออกถึงความเป็นมิตรทางท่าทางแทน งดคิวการแสดงของตัวละครและ..และ งดการกรีดร้องในสถานที่เปิดและปิด ซึ่งหมายถึงงดแหกปาก กรีดร้องบนรถไฟเหาะ รวมถึงในบ้านผีสิงด้วย …ป๊าดดดดดด!!
การปลดปล่อยความตึงเครียดด้วยการตะโกนและกรีดร้อง ทำให้อนุภาคน้ำลายในปากจะกระจายปลิวว่อนไปสัมผัสผู้คนที่อยู่ใกล้ๆ ในบริเวณนั้น เราคงไม่อยากไปสนุกและกลับบ้านพร้อมไวรัสแน่นอน โดยที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเพียงแนวทางที่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่อยากชัด แต่เป็นมาตราการเบื้องต้นที่คิดมาเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของนักท่องเที่ยว ถ้าเป็นไปได้ทางสวนสนุกเองก็อยากปิดเครื่องเล่นบางชนิดเพราะคิดว่ามันสุ่มเสี่ยงที่จะติดไวรัสได้