ในขณะที่ Oculus บริษัทผู้บุกเบิกอุตสาหกรรม VR ที่ถูก Facebook เข้าซื้อกิจการมาดูแลเมื่อประมาณสองปีก่อน ได้มีการออกผลิตภัณฑ์หลักของตัวเองออกมาจำหน่ายนั้นคือ Oculus Rift แต่กลับเป็นอุปกรณ์ Gear VR จากทางซัมซุงที่นับได้ว่าเป็นอุปกรณ์ VR ที่ใช้เทคโนโลยีของ Oculus แต่มอบประสบการณ์แบบไร้สายให้กับผู้ใช้ได้อย่างแท้จริง
จนปีที่ผ่านมา Oculus ประกาศว่ากำลังวางแผนปล่อยอุปกรณ์ VR แบบสแตนด์อโลนที่จะทำงานได้ด้วยตัวเองภายใต้ชื่อโปรเจค “Santa Cruz” และในต้นปีนี้เช่นกันที่มีข่าวว่าบริษัทกำลังพัฒนาอุปกรณ์ VR ไร้สายอีกหนึ่งรุ่น ในชื่อ “แปซิฟิก” แต่กลับเป็นว่าวันนี้เราได้พบกับอุปกรณ์ VR แบบสแตนด์อโลนตัวแรก ที่ชื่อว่า “Oculus Go”
ย้ำอีกครั้งเพื่อให้ชัดเจน Oculus Go ไม่ใช่ผลงานจากโครงการ Santa Cruz เพราะว่าโปรเจค Santa Cruz จะยังคงมีอยู่และจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่แยกต่างหากจากรุ่น Go ครับ
สำหรับ Oculus Go มันถูกออกแบบให้เป็นอุปกรณ์ VR ขนาดกลางที่อยู่ระหว่าง Rift และ Gear VR เพราะความแตกต่างหลักๆ ของ Oculus Go ก็คือ มันไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับพีซีหรืออุปกรณ์ใดๆ แบบ Gear VR ของซัมซุง ที่ยังต้องอาศัยใช้โทรศัพท์
Oculus Go จะเป็นตัวของตัวเอง ทำงานได้ด้วยตัวเอง ซึ่งซีอีโอ Mark Zuckerberg ได้กล่าวว่านี่คือ ” VR ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา” ภายใน Oculus Go มีผ้าตาข่ายที่สอดรับกับการสวมใส่บนใบหน้าของคุณ มันมีกล้องถ่ายรูปอยู่ภายในและใช้เทคโนโลยีการมองเห็นแบบคอมพิวเตอร์เพื่อกำหนดติดตามการหันทิศทางของใบหน้า และจะขายในราคา 199 เหรียญเท่านั้น (ราคาประมาณ 6,600 บาท) ซึ่งพร้อมจะจัดส่งออกไปจำหน่ายในต้นปีหน้าได้ทันที
รองประธานกรรมการ Hugo Barra ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า Oculus Go จะมีสายรัดที่ยืดหยุ่นอ่อนนุ่มต่อการสวมใส่ และมาพร้อมกับเลนส์ VR ยุคใหม่ที่พัฒนาต่อมาจาก Oculus Rift โดยยังคงมีมุมมองกว้างเช่นเดิมแต่จะลดแสงสะท้อนที่จะส่งผลน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด สำหรับจอแสดงผลเป็นแบบ “fast-switch LCD” ที่มีความละเอียดสูงถึง WQHD 2560X1440 ซึ่ง Barra กล่าวว่า มันมีเทคโนโลยีการเติมพิกเซลเข้าไปให้สูงกว่าปกติ ซึ่งจะมีผลอย่างมากต่อความชัดเจนของภาพ และลดผลกระทบที่อาจจะเกิด screendoor effect ขึ้นให้เห็นได้ในระหว่างการใช้งาน
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการพัฒนาด้านเสียง โดยตัว Oculus Go จะมีไดรเวอร์ลำโพงเสียงติดตั้งอยู่ภายใน คุณไม่จำเป็นต้องใช้หูฟังเพื่อใช้ฟังเสียง และนั่นหมายความว่าคนรอบตัวคุณสามารถรับฟังเสียงเกมหรือเสียงจากสิ่งที่คุณกำลังใช้งานอยู่ไปด้วยได้
Barra ให้ข้อมูลสำหรับแอพพลิเคชันที่จะนำมาใช้งานใน Oculus Go จะเป็นแอพพลิเคชั่นเดียวกันกับ Samsung Gear VR ซึ่งหมายความว่าแอพใดที่สร้างขึ้นสำหรับ Gear VR จะเข้ากันได้กับ Oculus Go โดยอัตโนมัติ ซึ่งในชุดของ Oculus Go จะมาพร้อมรีโมทควบคุมที่คล้ายกับ Gear VR และทาง Oculus จะเริ่มจัดส่งชุดเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาออกไปในช่วงเดือนหน้านี้แล้วครับ