ถือว่าเป็นเรื่องเลวร้ายขั้นสุดยอดนะครับเมื่อมือถือแสนแพงที่เราถนอมซะดิบดี ขนาดแค่หล่นเบาๆใจเราก้แทบจะขาดไปด้วย5555 ไม่ได้เวอร์นะเนี่ยแต่หลายคนต้องรู้สึกแบบนั้นแน่ๆครับ วันนี้ผมมีข้อแนะนำเมื่อมือถือแสนรักของเราเปียกน้ำมาฝากครับ ซึ่งทางออกที่ดีที่สุดคือต้องระวังและรอบคอบเป็นดีที่สุดนะฮะ เพราะอุปกรณ์พวกนี้เจอน้ำเข้าไปโอกาสที่จะใช้งานได้ดีไร้ปัญหาใดๆนั้นน้อยมากๆเลยละ^^
1. เมื่อโทรศัพท์ตกน้ำหรือเปียกน้ำให้รีบปิดเครื่องและถอดแบตเตอรี่ออกทันที (ถ้าสามารถถอดได้นะครับ) เพื่อป้องกันการลัดวงจร และการสูญหายของข้อมูล (อย่าพยายามเปิดเครื่องโดดเด็ดขาด)
2. ตรวจสอบเซ็นเซอร์ และเครื่องหมายการเปลี่ยนแปลงของสีเพราะความชื้น แต่ละแบรนด์เครื่องหมายตรงนี้จะอยู่ตำแหน่งแตกต่างกันปกติจะเป็นสีขาว และเมื่อโดนความชื่นมันจะเปลี่ยนสีครับ ทีนี่ก็โดนลอยแพประกันขาดทันที=__=
3. อธิษฐานอย่าให้มันเป็นน้ำเค็ม เพราะคราบเกลือสามารถสร้างความเสียหายให้กับอุปกรณ์ได้อย่างถาวร ทางแก้ที่พอจะดีที่สุดคือล้างมันซะ (ระวังๆนะครับ)
4. เช็ดโทรศัพท์ด้วยผ้าหรือกระดาษเช็ดมือให้แห้งเท่าที่จะทำได้ แต่ห้ามเขย่าเพราะมันจะยิ่งกระจายไปในส่วนต่างๆมากยิ่งขึ้น
5. ถ้าบ้านคุณมีของเจ๋งๆอย่างเครื่องดูดความชื้นสูญญากาศจงใช้ซะ ให้มันดูดความชื้นซัก 2-3 นาทีแล้วนำไปใว้ในที่อากาศถ่ายเท
6. สุดท้ายนำโทรศัพท์ที่น่าสงสารของคุณมาใส่ในขวดหรือถุงที่บรรจุข้าวสาร (คลาสสิคจัง ฝรั่งก็ใช้ข้าวสารเหรอเนี่ย5555) หมกใว้อย่างน้อย 24 ชั่วโมงครับ แล้วภาวนาให้ดีครับว่ามือถือสุดที่รักของเราจะรอดปลอดภัย แต่วิธีที่ว่ามาก็แค่การดูแลเบื้องต้นครับ จากนั้นควรรีบส่งศูนย์ซ่อม (แต่ก็ต้องจ่ายค่าซ่อมเองครับ ประกันหลุดเรียบร้อยแล้ว และแน่นอนช่างดูออกนะครับ ไม่ต้องลุ้น หึ หึ) หรือกลัวแพงก็ไปซ้อมตามตู้แต่ขอเตือนครับไม่ควรอย่างยิ่ง ร้านที่ใว้ใจได้เดี๋ยวนี้มีน้อยซะยิ่งกว่าน้อยครับ ถึงศนย์มือถือหลายๆแบรนด์บ้านเรามีชื่อเสียเยอะมาก แต่อย่างน้อยก็โวยได้นะครับ อิอิ ยังไงก็เชื่อถือได้และปลอดภัยกว่าครับ และแน่นอนเมื่อโดนน้ำจะซ่อมให้กลับมา 100% มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ครับ ทางที่ดีซ่อมเสร็จก้เอาไปขายแล้วซื้อใหม่ดีกว่านะครับ^__^ (ว่าไปผมเล่นมือถือมาสิบกว่าปีก็ยังไม่เคยทำมือถือเปียกน้ำเลยแหะ)