หนึ่งในหัวข้อที่เราชาวโซเชียลมีเดียได้เห็นทุกวัน คือข่าวคราวเกี่ยวกับ 5G จนทุกวันนี้เป็นเรื่องที่พูดคุยกันปกติไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น เชื่อว่าหลายคนก็ยังมีคำถามในใจว่า 5G คืออะไร? 5G มีดีกว่า 4G มากแค่ไหน? 5G ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันเราอย่างไรบ้าง? 5G มีความจำเป็นในเร็ววันนี้หรือไม่? และที่สำคัญที่สุดคือ 5G ที่จับต้องได้และจะพิสูจน์ได้ยังไง? คำตอบคือ ทุกอย่างเริ่มต้นที่สมาร์ทโฟนหนึ่งเครื่อง เพียงคุณเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนที่ใช้สัญญาณ 5G ได้ เท่ากับคุณได้เปิดประตูสู่โลกสุดอัจฉริยะที่สรรค์สร้างด้วยเทคโนโลยีที่จะนำพาความสะดวกสบาย และสนุกสนานมาให้ชีวิตประจำวันของคุณแล้ว
การเปิดตัวของ HUAWEI nova 7 Series ได้สร้างปรากฎการณ์และมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดสมาร์ทโฟน ด้วยการนำเสนอสมาร์ทโฟน 5G ที่ราคาคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็น HUAWEI nova 7 SE ที่ตอนนี้กลายเป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่ขายดีที่สุดในตลาดและเร็วๆ นี้ กับ HUAWEI nova 7 สมาร์ทโฟนกล้องเจ๋ง สเปคแรง ตอบโจทย์คอเกม ดังนั้นตอนนี้ จึงถือเป็นโอกาสดีอย่างยิ่งที่ผู้บริโภคจะได้เริ่มลองเปิดประสบการณ์ 5G ในราคาที่ไม่ต่างจาก 4G หากยังไม่แน่ใจ เรามาดูกันดีกว่าว่า 5 เหตุผลเด็ดๆ ที่จะช่วยให้คุณพอนึกภาพออกว่า สมาร์ทโฟน 5G อย่าง HUAWEI nova 7 Series จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่คุ้มค่ามากแค่ไหน
1. การถ่ายรูปแชร์ลงโซเชียลมีเดีย จะสนุกกว่าที่เคยเป็น
หากใช้สมาร์ทโฟน 5G ใน HUAWEI nova 7 Series ก็จะสามารถอัพโหลดรูป ส่งรูป หรือแชร์รูปพร้อมแคปชั่นได้อย่างรวดเร็วกว่าเดิมไม่ว่าอยู่แลนด์มาร์คที่คนใช้อินเทอร์เน็ตกันเยอะแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นรูป Portrait ภาพทิวทัศน์ครอบคลุมบริเวณกว้าง หรือการถ่ายในที่แสงน้อย กล้อง AI 64MP ก็จะทำให้รูปบนโซเชียลมีเดียช่องทางโปรดของคุณดูสวยงามที่สุด
สำหรับคนที่ชอบถ่ายเซลฟี่ กล้องหน้า 32MP ของ nova 7 หรือ 16MP ของ nova 7 SE ก็มี AI อัจฉริยะช่วยสร้างภาพแบบ bokeh และ ทำภาพให้ดูฟุ้งๆ เหมือนอยู่ในความฝันได้ แถมยังมี Super Night Selfie สำหรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อย เวอร์ชั่น 2.0 ทำหน้าที่ปรับแสงของผิวใบหน้าให้ผุดผ่องขึ้น และปรับแสงของภาพโดยรวมให้สวยงามพอเหมาะ ส่วน Super Night Selfie 3.0 บน nova 7 จะทำงานคู่กับ BM3D noise reduction ให้ภาพในที่แสงน้อยมีความหยาบน้อยลง และคมชัดมากขึ้น
2. เล่าเรื่องราวผ่านวีดีโอง่ายๆ แบบที่ไม่เคยทำได้มาก่อน
กล้องของ HUAWEI nova 7 Series ที่มี 5G นี้ช่วยให้คุณผลิตคอนเทนต์คุณภาพอย่าง vlogger มืออาชีพ แชร์เรื่องราวที่พบเจอในชีวิตประจำวันได้ทุกวันแม้คุณไม่เคยตัดต่อวิดีโอมาก่อน โดยกล้องสามารถถ่ายวิดีโอคมชัดระดับ 4K ได้อย่างสบายๆ โดยเทคโนโลยีลดจุดสัญญาณรบกวนในภาพ ทำให้วิดีโอที่ถ่ายตอนกลางคืน หรือที่แสงน้อยมีความคมชัด และดูมีความละเอียด
นอกจากเรื่องความคมชัดแล้ว คนที่อยากถ่ายวิดีโอแบบสองมุมมองในเวลาเดียวกัน โดยไม่ต้องเสียเวลาถ่ายสองครั้ง หรือใช้การตัดต่อให้ยุ่งยากและเสียเวลา ก็สามารถใช้ DUAL-VIEW Video Mode ที่ถ่ายภาพมุมกว้างพาโนรามากับโคลสอัพ หรือถ่ายด้วยกล้องหน้าไปพร้อมๆ กับกล้องหลัง อย่างการถ่ายของอร่อยๆ ไปพร้อมกับรีแอคชั่นของตัวเองเมื่อได้ลิ้มรส ก็ทำได้ในเวลาเดียวกัน ประหยัดเวลาไปอีกเยอะ
อีกอย่างอย่าลืมว่า 5G ที่มีแบนด์วิธใหญ่ ก็ทำให้คุณสามารถอัพโหลดไฟล์วิดีโอใหญ่ๆ ลงช่องทางต่างๆ ได้ทันทีไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม บอกลาได้เลยปัญหาการโพรเซสวีดีโอช้า
3. ประสบการณ์การเล่นเกมที่เจ๋งขึ้นกว่าเดิม
HUAWEI nova 7 และ HUAWEI nova 7 SE ใช้ขุมพลังชิปเซ็ต Kirin 985 และ Kirin 820 ตามลำดับ ที่ผสาน 5G Modem ลงบนชิปเซ็ตด้วยเทคโนโลยีชั้นนำ ครอบคลุม 8 ย่านความถี่ ทำให้สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ต ด้วยความเร็วระดับ 5G ได้อย่างลื่นไหล ถือเป็นข้อได้เปรียบสำหรับเหล่าเกมเมอร์ให้สามารถเล่นเกมได้ด้วยภาพที่มีความละเอียดสูง และมีความหน่วงต่ำ ไม่กระตุก ได้ในอีกระดับของความสะใจ โดย GPU ที่ใช้ก็รองรับเกมภาพ 3 มิติ ใหญ่ๆ ภาพคมๆ ได้เป็นอย่างดี
4. อีโคซิสเต็มที่เชื่อมคอนเทนต์ทุกอย่างของคุณเข้าไว้ด้วยกัน
ส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตแบบ 5G คือการที่เทคโนโลยีต่างๆ รอบตัว เชื่อมต่อกันเป็นอีโคซิสเต็มเดียว โดยมีความเร็วของ 5G ช่วยอำนวยความสะดวก ที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงรูป วิดีโอ ไฟล์ต่างๆ และข้อมูลการเล่นเกมผ่านอุปกรณ์หลายๆ ชิ้นของหัวเว่ยรวมถึงสมาร์ทโฟน HUAWEI nova 7 Series โดยใช้ HUAWEI ID และยังมีอีกอย่างที่ทำให้การเข้าถึงคอนเทนต์บนสมาร์ทดีไวซ์ของหัวเว่ยมีความไร้รอยต่อคือ Huawei Share บน nova 7 ที่จะช่วยส่งไฟล์จากอุปกรณ์สู่อุปกรณ์ได้เพียงแตะเข้าด้วยกัน หัวเว่ยมีกลยุทธ์ 1+8+N ที่ให้ สมาร์ทโฟนเป็น 1 ศูนย์กลางที่เชื่อมต่อ 8 สมาร์ทดีไวซ์อื่นๆ เพื่อโอนถ่ายข้อมูลระหว่างกันได้ โดย N นั้นจะหมายถึงอุปกรณ์ IoT ต่างๆ ของหัวเว่ยที่จะใช้ 5G ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคให้ดีขึ้นไปอีกขั้น
5. ระบบปฏิบัติการที่ให้มากกว่าการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
HUAWEI nova 7 Series มาพร้อมระบบปฏิบัติการ EMUI 10.1 ซอฟท์แวร์สุดล้ำที่ขาดไม่ได้สำหรับสมาร์ทโฟน 5G ซึ่งจะทำให้การใช้ชีวิตแบบดิจิทัลมีความอัจฉริยะขึ้นไปอีกขั้น เพราะเป็นเวอร์ชั่นอัพเดทล่าสุดที่มีระบบวิดีโอคอล HUAWEI MeeTime ที่ใช้ประโยชน์จาก 5G ให้ผู้ใช้สามารถวิดีโอคอลกับครอบครัวและเพื่อนฝูงได้แบบมีประสิทธิภาพดีที่สุด โดย 5G จะช่วยให้คุณภาพวิดีโอคอลมีความลื่นไหล และภาพสวยคมชัดยิ่งกว่าวิดีโอคอลทั่วไป โดย HUAWEI nova 7 SE รองรับความละเอียดของวีดีโอคอลที่ 720p และ HUAWEI nova 7 รองรับได้ถึง 1080p
นอกเหนือจาก 5 เหตุผลที่สมาร์ทโฟน 5G ใน HUAWEI nova 7 Series จะเป็นจุดเริ่มต้นเข้าสู่โลกของ 5G ได้ดีแล้ว HUAWEI ยังคงพัฒนาแหล่งแอปพลิเคชันของตัวเอง ให้ทุกสมาร์ทดีไวซ์ที่ใช้ EMUI 10.1 สามารถเลือกดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้จาก HUAWEI AppGallery ที่ร่วมมือกับนักพัฒนาแอปพลิเคชันทั่วโลก ผลิตแอปยอดฮิตในตลาดต่างๆ ทั้งในด้านบันเทิง ท่องเที่ยว การทำงาน การศึกษา รวมถึงเกมต่างๆ ที่ท้าทายการใช้งาน 5G อย่างเต็มที่ โดยล่าสุดหัวเว่ยได้เปิดตัว Petal Search ซึ่งเป็นเครื่องมือการค้นหาแอปจากแหล่งต่างๆ โดยมี Find Apps เป็นวิดเจ็ตที่ช่วยค้นหา
แอปฯ กว่าร้อยแอปฯ ที่จะได้รับการอัพเดทบนแพลตฟอร์มทุกๆ สัปดาห์ เพียงใช้วิดเจ็ตดังกล่าว หากแอปฯ ใดมีใน HUAWEI AppGallery แล้วก็จะแสดงผลด้านบนสุดให้ได้ดาวน์โหลดกันง่ายๆ ทันที คราวนี้ไม่ต้องกลัว ชาวไทยสามารถใช้งาน Facebook, Facebook Messenger และ Instagram กันได้ง่ายๆ แล้ว ถือเป็นการเพิ่มอีกทางเลือกหนึ่งในการค้นหาแอปพลิเคชั่นให้กับผู้ใช้งาน
สำหรับใครที่ตั้งตารอ HUAWEI nova 7 อดใจอีกนิด วางจำหน่ายเร็วๆ นี้แน่นอน แต่จะมาพร้อมโปรโมชั่นจัดเต็มอะไรนั้น สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://consumer.huawei.com/th/phones/ และดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรโมชันที่ http://www.facebook.com/HuaweiMobileTH