หนึ่งในเรื่องลึกลับของวงการสมาร์ทโฟนที่ว่าทำไมระบบ IOS เช่น ตั้งแต่ iPhone 5 เป็นต้นมาจนถึงยุคปัจจุบันคือ iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus ใส่ RAM เพียง 1GB แต่กลับใช้งานได้อย่างลื่นไหล เมื่อเทียบกับระบบ Android ที่ต้องอัดสเปคมาแบบหนักหน่วง ชนิดที่ว่าถูกใจชาวบ้าพลังกัน ด้วย RAM 2GB และ 3GB ถึงจะใช้งานได้อย่างลื่นไหลเช่นเดียวกัน (เอาจริงแล้ว RAM 1GB ก็ลื่นได้นะแต่ว่าคุณต้องบริหารดีๆ ด้วยการปิดแอปที่ไม่ใช้แล้วและออกแอปหรือเกมด้วยการกดปุ่ม Back ออกเอาจะดีกว่ากดปุ่ม Home ทิ้งไว้ เพราะถ้ากด Home ออกมาสำหรับแอนดรอยด์แล้วยังถือว่าแอปนั้นยังทำงานอยู่ ส่งผลถึงความเร็วของเครื่องและ RAM ที่เหลือน้อยอีกด้วย) เราจะมาชี้แจงให้เห็นกันแบบทะลุปรุโปร่งว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ โดยได้ข้อมูลจากเว็บ Quora ที่ได้บอกว่าแอปของฝั่ง Android ยังใช้ Java อยู่
จากการใช้ Java นี่แหล่ะเป็นข้อเสียเพราะจะมีการสะสมของระบบจัดการพวกไฟล์ขยะ หรือเรียกกันว่า “garbage collection” ซึ่งทุกครั้งที่ผู้ใช้แอนดรอยด์ได้ปิดแอป ตัวจัดการไฟล์ขยะเหล่านี้จะใช้พื้นที่มากขึ้นในหน่วยความจำเพื่อการทำงาน ซึ่งปัญหาก็คือตัวจัดการพวกไฟล์ขยะเหล่านี้กินพื้นที่ของหน่วยความจำมาก(RAM)ถึง 4-8เท่ากว่าการทำงานของมันจะเสร็จสิ้น และถ้าเกิดว่าเราใช้งานพื้นที่หน่วยความจำเยอะเกินไปจนส่งผลให้ RAM มีไม่พอใช้ มันจะทำให้เครื่องช้าลงได้เลย ซึ่งเมื่อเทียบกับ IOS แล้ว ที่มีการจัดสรรซึ่งต่างกันออกไป ทำให้ RAM 1GB ก็จัดการในส่วนนี้ได้ลื่นปรื๊ดๆ สบาย ดังนั้นนี่จึงเป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบที่ทำให้ผู้ใช้หลายๆคนรับรู้ -ในหลายๆ ข้อของความแตกต่างระหว่างระบบ IOS และ Android ครับ [Update]-
credit : phonearena