หลังการปล่อยอัพเดทอย่างเป็นทางการของ Windows 10 เมื่อวันที่ 29 กรกฏาคมที่ผ่านมา ก็ดูเหมือนว่าความร้อนแรงของระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุดของ Microsoft ตัวนี้ จะทำให้ Microsoft ยิ้มได้ กับแนวทางใหม่อย่างการปล่อยระบบปฏิบัติการให้อัพเกรดกันได้ฟรี (สำหรับผู้ใช้ Windows 7 และ Windows 8) ภายใต้แนวคิด Windows as a Services ของคุณ Satya Nadella
ล่าสุด Microsoft ประกาศผ่านหน้าบล็อกของตัวเองว่า จนถึงตอนนี้ Windows 10 ถูกติดตั้งลงในอุปกรณ์ต่างๆกว่า 200 ล้านเครื่องแล้ว (รวมทั้งพีซี แล๊บท๊อป แท๊บเล็ต หรือแม้แต่เครื่องเล่นเกมส์อย่าง XBOX One ด้วย) ซึ่งตัวเลขนี้เป็นตัวเลขที่ Microsoft บอกว่าเป็นตัวอัตราการเติบโตที่สูงที่สุดของระบบปฏิบัติการทุกเวอร์ชั่นในประวัติศาสตร์ของ Microsoft ด้วย ซึ่งสูงกว่า Windows 7 ถึง 140% ในช่วงเวลาเดียวกัน และสูงกว่า 400% เมื่อเทียบกับ Windows 8
จนถึงตอนนี้ Windows 10 ออกสู่ตลาดเป็นเวลา 6 เดือน และเมื่อ 3 เดือนก่อน Microsoft เพิ่งประกาศตัวเลขการติดตั้ง Windows 10 เอาไว้ที่ 110 ล้านเครื่องเท่านั้น เท่ากับว่าอัตราการเติบโตของ Windows 10 ยังคงเติบโตในอัตราส่วนที่ค่อนข้างคงที่
และด้วยฐานผู้ใช้ที่มากขึ้นนี่เอง ทำให้ Windows Store ของ Windows 10 เองก็ได้รับอานิสงค์นี้ไปด้วย โดยอัตราการซื้อแอพใน Store เองก็สูงขึ้นกว่าเดิมถึง 2 เท่าในช่วงวันหยุดของต่างประเทศ และเฉพาะในเดือนธันวาคมเดือนเดียว Windows store เองก็มีรายรับเพิ่มขึ้นกว่า 4.5 เท่า
นั่นนำมาซึ่งการสร้างแรงจูงใจของนักพัฒนา ในการสร้างแอพแบบ Universal Apps มาลงบนระบบปฏิบัติการนี้ด้วยเช่นกัน โดย Microsoft อ้างว่าเร็วๆนี้ จะมีแอพแบบ Universal apps อย่างเป็นทางการทยอยมาลงใน Windows store มากขึ้นด้วย
หากการเติบโตของ Windows 10 ยังอยู่ในอัตรานี้ เป้าหมายของ Microsoft ที่ต้องการให้มีฐานผู้ใช้ถึง 1,000 ล้านเครื่องใน 2-3 ปี ก็ดูเป็นไปได้ทีเดียวครับ