ย้อนความกลับไปในเดือนตุลาคมปี 2022 มหาเศรษฐีอีลอน มัสก์ ได้ดำเนินการเข้าซื้อบริษัท Twitter มาในราคา 44 พันล้านดอลลาร์ ด้วยความที่ดูเหมือนเขาจะไม่เต็มใจมากนัก แต่เกิดจากข้อบังคับาทางธุรกิจที่ถ้าเขาไม่ดำเนินการซื้อขายตามสัญญา ก็จะต้องจ่ายค่าปรับเป็นจำนวนเงินมหาศาล จนต่อมาเมื่อมีการปิดดีลการซื้อขายได้สำเร็จ อีลอน มัสก์ก็ได้ทำการปลี่ยนชื่อบริษัท Twitter เป็น X ในเดือนกรกฎาคม 2023 และยังใช้ชื่อใหม่นี้จนมาถึงปัจจุบัน
จากการให้สัมภาษณ์ของผู้จัดการสินทรัพย์ Fidelity ซึ่งพวกเขาเป็นกลุ่มกองทุนรวมรายใหญ่ หนึ่งในเจ้าของผู้ถือหุ้นใน X พวกเขาได้รายงานมูลค่าของบริษัทที่ลดลงอย่างต่อเนื่องออกมาเป็นประจำนับตั้งแต่การเข้าซื้อกิจการของมัสก์ และล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้มีการกล่าวถึงข้อมูลตรงจุดนี้กับทาง Axios อีกครั้งเอาไว้ว่า ปัจจุบันมูลค่าของ X ได้มีมูลค่าน้อยลงไปกว่า 71.5% ถ้านับตั้งแต่มหาเศรษฐีมัสก์ได้เข้าไปซื้อกิจการมาในราคา 44 พันล้านดอลลาร์เมื่อเดือนตุลาคมปี 2022
ย้อนกลับไปดูรายงานในเดือนพฤษภาคมที่ Fidelity เคยแจ้งไว้กับทาง Bloomberg พวกเขาได้เคยประเมินว่า X ในขณะนั้น จะมีมูลค่าเพียงประมาณ 15 พันล้านดอลลาร์ หรือนับเป็นเพียงหนึ่งในสามของจำนวนเงินที่ Musk จ่ายไป ด้วยเหตุผลที่ปี 2023 นับเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับ X อย่างมากครับ เพราะความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทผู้มาลงโฆษณากับทาง X และคุณอีลอน มัสก์ ค่อนข้างจะสวนทางกันหลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะในเดือนพฤศจิกายน ที่บริษัทต่างๆ เช่น Disney และ IBM ได้ดึงโฆษณาของตัวเองออกจากแพลตฟอร์ม X หลังจากที่ Musk ได้แสดงท่าทีเหมือนว่าเขาจะสนับสนุนความคิดต่อต้านชาวยิว
โดยผลกระทบดังกล่าว ส่งผลอย่างมากกับรายได้ของ X ตามที่เขาได้เขียนเอาไว้ “เรายังคงมีกระแสเงินสดติดลบ เนื่องจากรายได้จากการโฆษณาที่ลดลงไปประมาณ 50% บวกกับภาระหนี้จำนวนมาก”
แม้อีลอน มัสก์จะออกมาขอโทษในภายหลังสำหรับประเด็นต่อต้านยิว แต่ก็ไม่วายที่จะตำหนิผู้ลงโฆษณาซึ่งเลือกที่จะคว่ำบาตรบริษัทของเขาเอาไว้ด้วยเช่นกัน โดยเขาได้กล่าวในการให้สัมภาษณ์ที่งาน New York Times Dealbook Summit เมื่อเดือนพฤศจิกายนเอาไว้ว่า “ถ้ามีใครพยายามจะแบล็กเมล์ฉันด้วยการโฆษณา หรือแบล็กเมล์ฉันด้วยเงินล่ะก็ ไปตายซะ ไปเลย ”
แต่อย่างไรก็ตาม สุดท้ายมัสก์ก็ต้องยอมรับว่าการคว่ำบาตรของผู้ลงโฆษณาสามารถ “ฆ่าบริษัท” ของเขาได้จริงๆ