เสียวหมี่ ประเทศไทย ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Redmi Note 14 Series ซึ่งประกอบด้วย Redmi Note 14 Pro+ 5G, Redmi Note 14 Pro 5G, Redmi Note 14 5G, และ Redmi Note 14 ชูจุดเด่นด้วยกล้อง AI ความละเอียดสูง ความทนทานระดับออลสตาร์และการอัปเกรดฟีเจอร์รอบด้านเพื่อมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เสียวหมี่ ประเทศไทย ยังประกาศวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ AIoTs รุ่นใหม่มากมายอีกด้วย
สมาร์ทโฟน Redmi Note 14 Series
บันทึกช่วงเวลาสำคัญไปกับกล้อง AI อันทรงพลัง
Redmi Note 14 Series มีระบบกล้องที่ได้รับการออกแบบมาให้สามารถถ่ายภาพได้ในระดับเรือธง โดยสมาร์ทโฟนรุ่น Pro จะมาพร้อมระบบกล้อง AI ระดับมืออาชีพความละเอียด 200MP และมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS) นอกจากนี้ Redmi Note 14 Pro+ 5G และ Redmi Note 14 Pro 5G ยังมาพร้อมกับตัวเลือกการซูมขั้นสูงซึ่งสามารถถ่ายภาพที่มีรายละเอียดที่เล็กที่สุดด้วยการซูมแบบออปติคอลแบบไม่สูญเสียคุณภาพ 2 เท่า และ 4 เท่า ไปจนถึงการถ่ายภาพวัตถุที่อยู่ไกลด้วยการซูมแบบดิจิทัลสูงสุด 30 เท่า ในขณะที่ Redmi Note 14 5G และ Redmi Note 14 นั้นมาพร้อมกับระบบกล้อง AI ความละเอียด 108MP ที่มอบสีสันสดใสและรายละเอียดที่คมชัด จึงทำให้การถ่ายภาพคุณภาพสูงนั้นสามารถเป็นไปได้ในสมาร์ทโฟนทุกรุ่นในทุกระดับราคา
นอกจากนี้ ในรุ่น Pro ของ Redmi Note 14 Series ยังมีฟีเจอร์ Advanced AI อาทิ AI Image Expansion1 ซึ่งจะช่วยขยายพื้นหลังเพื่อให้คุณถ่ายภาพได้สมจริงมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ AI Erase Pro1 จะช่วยลบวัตถุที่ไม่ต้องการได้อย่างง่ายดาย และยังมาพร้อมฟีเจอร์ AI Sky ที่จะช่วยให้คุณสลับพื้นหลังได้อย่างง่ายดาย ทั้งนี้การผสานเอาเครื่องมือ AI เข้ามาไว้ด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ2 นั้นจะช่วยให้คุณสามารถเพิ่มคุณภาพของภาพและปรับปรุงแก้ไขภาพเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ระดับมืออาชีพได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น
ความแข็งแกร่งและยืดหยุ่นที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน
Redmi Note 14 Series นั้นถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน โดยมาพร้อมกับความทนทานต่อการตก น้ำกระเซ็น และรอยขีดข่วน ซึ่งความแข็งแกร่งทั้งหมดนี้เริ่มต้นมาจากโครงสร้างออลสตาร์อาร์เมอร์ (All-Star Armor) ซึ่งประกอบด้วยส่วนเสริมที่เป็นประโยชน์หลายอย่าง เช่น โครงอะลูมิเนียมคอมโพสิตที่มีความแข็งแรงสูง โฟมดูดซับพลังงาน และวัสดุกันกระแทกโพลีเมอร์ ซึ่งจะมีอยู่ใน Redmi Note 14 Pro+ 5G และ Redmi Note 14 Pro 5G เพื่อเพิ่มความทนทานต่อการตก ในขณะเดียวกันหน้าจอ Corning Gorilla Glass Victus 2 ก็ช่วยให้สมาร์ทโฟนในรุ่น Pro มีความทนทานต่อรอยขีดข่วนมากขึ้น โดยจะจับคู่กับฝาครอบแบตเตอรี่ Corning Gorilla Glass 7i หรือหนังวีแกนใน Redmi Note 14 Pro+ 5G เพื่อการป้องกันที่รอบด้าน7 ขณะที่ Redmi Note 14 5G และ Redmi Note 14 จะมาพร้อมกระจกป้องกัน Corning Gorilla Glass 5 ที่ให้ความแข็งแกร่งและยืดหยุ่นด้วยเช่นกัน
นอกเหนือจากการป้องกันจากการขีดข่วนและตกกระแทกแล้ว Redmi Note 14 Series ยังถูกออกแบบมาให้ทนทานต่อสภาพอากาศอีกด้วย โดย Redmi Note 14 Pro+ 5G และ Redmi Note 14 Pro 5G มาพร้อมกับการป้องกันฝุ่นและน้ำตามมาตรฐาน IP684 ที่จะช่วยปกป้องอุปกรณ์จากฝุ่นและน้ำได้อย่างเหนือชั้นและให้คุณใช้งานได้ในทุกสถานการณ์
ในขณะที่ Redmi Note 14 5G นั้นก็มากับการป้องกันฝุ่นและน้ำตามมาตรฐาน IP645 และ Redmi Note 14 ก็มากับการป้องกันฝุ่นและน้ำตามมาตรฐาน IP545 ซึ่งสมาร์ทโฟนทุกรุ่นในซีรีย์ยังมาพร้อมหน้าจอแสดงผลที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อการตอบสนองที่แม่นยำมากยิ่งขึ้นในการป้อนข้อมูลแบบสัมผัสแม้จะอยู่ในสภาวะที่เปียกหรือมือนั้นมีคราบน้ำมันก็ตาม และด้วยฟีเจอร์ความทนทานแบบออลสตาร์ที่กล่าวมาทั้งหมด จึงทำให้ Redmi Note 14 Series นั้นพร้อมรับมือกับการใช้งานได้ในทุกสถานการณ์
ใช้งานได้ตลอดทั้งวันด้วยประสิทธิภาพอันราบรื่น
Redmi Note 14 Series มอบประสิทธิภาพอันแข็งแกร่งและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน โดยมาพร้อมชิปเซ็ตขั้นสูงจึงสามารถจัดการการทำงานแบบมัลติทาสก์ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการวิดีโอคอล การเล่นเกม และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่ง Redmi Note 14 Pro+ 5G นั้นขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ Snapdragon® 7s Gen 3 ขนาด 4 นาโนเมตรขั้นสูงและยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 5110mAh6 และไฮเปอร์ชาร์จ 120W ที่ให้พลังงานที่ยาวนานตลอดวัน ซึ่ง Redmi Note 14 Pro 5G ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 7300-Ultra ขณะที่ Redmi Note 14 5G ขับเคลื่อนด้วย MediaTek Dimensity 7025-Ultra และ Redmi Note 14 ขับเคลื่อนด้วย MediaTek Helio G99-Ultra เพื่อมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นสำหรับการเล่นเกม การสตรีม และการสลับแอปอย่างรวดเร็ว และเมื่อจับคู่กับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ตั้งแต่ขนาด 5110mAh จนถึง 5500mAh6 ก็จะทำให้สมาร์ทโฟนของคุณสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องตลอดทั้งวันแบบไม่มีสะดุด
ทั้งนี้ Redmi Note 14 Series ยังมีฟีเจอร์ Google Gemini2 ที่เข้ามาช่วยยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน นอกจากนี้ Redmi Note 14 Pro+ 5G และ Redmi Note 14 Pro 5G ยังมาพร้อมฟีเจอร์ Circle to Search2 ที่ช่วยให้คุณสามารถค้นหาข้อมูลรอบๆ ตัวได้อย่างรวดเร็วทำให้การใช้งานในชีวิตประจำวันนั้นง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ประสบการณ์การรับชมที่เต็มอิ่มด้วยหน้าจอแสดงผลที่ถนอมสายตา
Redmi Note 14 Series มาพร้อมหน้าจอแสดงผลถนอมสายตาอันคมชัด 120Hz เพื่อมอบประสบการณ์การรับชมอันดีเยี่ยม ทั้งนี้ Redmi Note 14 Pro+ 5G และ Redmi Note 14 Pro 5G นั้นยกระดับประสบการณ์ไปอีกขั้นด้วยความละเอียดหน้าจอ 1.5K ที่ทำให้ทุกรายละเอียดนั้นดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
Redmi Note 14 Series มาพร้อมการใช้เทคโนโลยีถนอมสายตาจึงทำให้การใช้งานเป็นเวลานานนั้นสบายตามากยิ่งขึ้น โดยสมาร์ทโฟนทุกรุ่นในซีรีย์นี้มีหน้าจอที่ช่วยป้องกันแสงสีฟ้าด้วยการรับรองจาก TÜV Rheinland Low Blue Light (ฮาร์ดแวร์โซลูชัน), การปราศจากการกระพริบ (Flicker Free) การเป็นมิตรทางชีวภาพตลอดทั้งวันกับผู้ใช้งาน (Circadian Friendly) จึงทำให้ผู้ใช้งานนั้นได้รับประสบการณ์อันน่าพึงพอใจมากยิ่งขึ้นในระหว่างการใช้งานในเวลากลางคืนหรือระหว่างการสตรีมมิ่งเป็นเวลานาน นอกจากนี้หน้าจอ Redmi Note 14 Pro+ 5G และ Redmi Note 14 Pro 5G ยังให้ความสว่างสูงสุด 3000 nits จึงทำให้การใช้งานกลางแจ้งนั้นราบรื่นไม่แพ้ตอนกลางคืน โดยคอนเทนต์บนหน้าจอจะยังคงชัดเจนสดใสแม้จะอยู่ภายใต้แสงสว่างจ้ากลางแดด คุณจึงสามารถรับชมเนื้อหาที่คมชัดและดื่มด่ำได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน
เสียวหมี่มอบการผสมผสานอันยอดเยี่ยมระหว่างประสิทธิภาพอันทรงพลัง การถ่ายภาพที่น่าทึ่ง และความทนทานอันแข็งแกร่ง ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของชีวิตสมัยใหม่ลงมาในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด Redmi Note 14 Series นี้
- Redmi Note 14 Pro+ 5G รุ่นความจุ 12GB+512GB มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Lavender Purple, Frost Blue และ Midnight Black พร้อมให้ลูกค้าสั่งจองล่วงหน้าระหว่างวันที่ 11 – 17 มกราคม 2568 โดยวางจำหน่ายในราคา 14,990 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม พิเศษ! สำหรับลูกค้าสั่งซื้อ Redmi Note 14 Pro+ 5G ในระหว่างวันที่ 11 – 17 มกราคม 2568 รับฟรี Redmi Note 14 Series x BamBam Exclusive Gift Set และประกัน VIP Service มูลค่ารวม 13,790 บาท
- Redmi Note 14 Pro 5G รุ่นความจุ 12GB+256GB มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Midnight Black, Lavender Purple และ Coral Green โดยวางจำหน่ายในราคา 11,990 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Redmi Note 14 Pro 5G ในระหว่างวันที่ 11 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 รับฟรี Redmi Watch 5 Active และประกัน VIP Service มูลค่ารวม 11,290 บาท
- Redmi Note 14 5G มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Midnight Black, Lavender Purple และ Coral Green โดยรุ่นความจุ 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 7,999 บาท และรุ่นความจุ 12GB+512GB วางจำหน่ายในราคา 9,999 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Redmi Note 14 5G ในระหว่างวันที่ 11 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 รับฟรี กระเป๋าล้อลาก Redmi Note 14 Series และประกัน VIP Service มูลค่ารวม 7,690 บาท
- Redmi Note 14 รุ่นความจุ 8GB+256GB มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Midnight Black, Mist Purple และ Lime Green โดยวางจำหน่ายในราคา 5,999 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Redmi Note 14 ในระหว่างวันที่ 11 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 รับฟรี กระเป๋าล้อลาก Redmi Note 14 Series และประกัน VIP Service มูลค่ารวม 5,690 บาท
นอกจากนี้ เสียวหมี่ ประเทศไทย ยังมอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อ Redmi Note 14 Pro+ 5G และ Redmi Note 14 Pro 5G เท่านั้น โดยรับสิทธิ์ลุ้นเป็นผู้โชคดีเข้าร่วมงาน Iconic Fan Meet สุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ BamBam ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 ที่สยามพารากอน โดยลูกค้าสามารถลงทะเบียนเพื่อลุ้นเป็น 1 ใน 150 lucky Fans ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Page ของ Xiaomi Thailand