ประสิทธิภาพระดับสูงสุดสำหรับการเล่นเกมบน Mi 11
Mi 11 สเปคแรงมาก มาในระดับที่ไม่ต้องพูดถึง แต่ผมจะพูดถึง ^^ ชิปเซ็ตตัวแรงสุด Snapdragon 888 ผลิตภายใต้เทคโนโลยีระดับ 5นาโน GPU AdrenoTM 660 ใช้แรมระดับท็อปของวงการ LPDDR5 Bus 3200MHz ขนาด 8GB และหน่วยความจำแบบ UFS 3.1 แรงชัวร์ ไม่มีแม้แต่อาการสะอึกให้เห็นในการเล่น และขอจบการรีวิว!!!
แต่! มันมากกว่าเรื่องสเปคครับสำหรับ Mi 11 เพราะเจ้าตัวนี้ตรงใจไปหมดสำหรับสายเอนเตอร์เทนเมนต์โดยเฉพาะการเล่นเกม เพราะนอกจากความแรงของชุดประมวลผลแล้ว หน้าจอแสดงผลและลำโพงคู่ของมันก็สุดยอดด้วยเช่นกัน และมันสำคัญมากในความมันส์ สำหรับการเล่นเกม ^^ รวมถึงระบบต่างๆ อีกมากมายภายในเครื่อง ที่จะทำให้การเล่นเกมของเราบนเครื่อง Mi 11 ให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุดบนอุปกรณ์สมาร์ทโฟนครับ
ภาพและเสียง
หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ยักษ์ 6.81 นิ้ว ขอบจอเล็กและบางสุดแบบ DotDisplay สีสันสดใสตามสไตล์ AMOLED อัตราส่วน 20:9 ความละเอียดสูง WQHD+ รีเฟรชเรทสูง 120 Hz refresh rate และการตอบสนองต่อการทัชสูงลิบลิ่ว touch sampling rate 480Hz!!! เรียกว่าเสิ้ยวของเสี้ยวของเสี้ยววินาทีที่นิ้วสัมผัสโดนกระจกจอ หน้าจอก็รับรู้และตอบสนองได้ทันที และแน่นอนการแสดงผลระดับ 120Hz และการควบคุมที่ฉับไวขนาด 480Hz มันก็พัฒนามาเพื่อการเล่นเกมนั้นแหละครับ
เวลาเล่นเกมบน Mi 11 เฟรมเรตจะนิ่งมากๆ ภาพไหลลื่นแม้จะเปิดความละเอียดสูงสุด และรีเฟรชเรทสูงสุด มันรันได้ในการแสดงผลระดับขีดสุดที่ตัวเกมจะรองรับ
สีสันสวย 10-bit color, HDR 10+ แสงสว่างสุดยอด contrast ratio: 5,000,000:1 สว่างสุด 1500nits สีสันตรง JNCD≈0.38, รองรับ DCI-P3 ศัพท์เทคนิคมากมายที่ไม่ต้องไปสนใจสำหรับสายเกม เอาว่าจอมันสวย สว่าง สีสันดี และจอก็โคตรใหญ่ครับ 6.81 นิ้ว จอเต็มหน้าเครื่อง ขอบโค้งจรดข้าง ใช้กระจกพิเศษ Corning Gorilla Glass Victus ทนทานต่อการกระทบ รอยขีดข่วน และยังเคลือบสารลดคราบเหงื่อหรือไขมัน แต่ Mi ก็ปิดแผ่นป้องกันกระจกหน้าจอมาให้อีกชั้น เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานมากขึ้นให้มานะครับ
ลำโพงสเตอริโอคู่คุณภาพเสียงระดับใช้ชมภาพยนตร์ได้เลย มีเนื้อเสียง เสียงดังชัดเจน เปิดสุดเสียงลำโพงไม่แตกแต่ดังขั้นหนวกหูคนรอบข้าง เพราะนี่คือลำโพงที่ได้รับการออกแบบจาก Harman Kardon คุณภาพเสียงหายห่วงครับ
MIUI 12 ระบบที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งาน และการเล่นเกม
Mi 11 ใช้ระบบ MIUI ตัวใหม่สุด MIUI 12 ครอบทับบน Android 11 ภายในมีฟังก์ชั่นและฟีเจอร์มากมายครับ ในเรื่องของการเล่นเกมก็เช่นกัน ภายในระบบของ MIUI จะมีฟังก์ชั่นที่ช่วยเหลือด้านการเล่นเกมที่ปรับแต่งและช่วยเหลือได้เยอะเลยครับ ชื่อว่า Game Turbo เจ้าตัวนี้ปรับแต่งให้การเล่นเกมของเรา ตรงใจ เล่นสนุก และให้เราได้มันกับการเล่นเกมได้แบบต่อเนื่อง
มันเป็นจุดศูนย์กลางของการเล่นเกม รวมไอคอนเรียกใช้งานเกมในที่เดียวกัน เปิด Game Turbo ตัวเครื่องก็พร้อมจะรีดทรัพยากรเครื่องทั้งหมดเพื่อนำมาใช้เล่นเกมให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีที่สุด (ไม่จำเป็นก็ได้นะท่าน Mi 11 แรงซะขนาดนี้) สิ่งที่เราจะได้ใน Game Turbo คือการกำหนดค่าระดับความแรงของตัวเครื่อง ที่กำหนดได้ทั้งการใช้พลังงาน ความแรงของ GPU เราเลือกได้ว่าต้องการประสิทธิภาพที่ดีที่สุดหรือการประหยัดพลังงานเป็นหลัก
เรายังสามารถกำหนดการตอบสนองสัมผัส และปกป้องพื้นที่ขอบจอทั้งสี่มุมที่เรามักจะไปโดนโดยไม่ตั้งใจ ให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยต่อการทัช ขยายและย่อขนาดพื้นที่ปลอดภัยได้ตามขนาดของอุ้งมือ คิดมาดีและคิดมาเพื่อสถานการณ์ในมุมคนเล่นเกม
ปรับสีสันของจอภาพ เพื่อความได้เปรียบในการมองเห็น ใช้ประโยชน์แบบจอ HDR ให้ปรับสีและแสงในระดับที่เหมาะสมกับสายตา เพื่อความสวยงามและมองเห็นได้ทั่วทั้งฉากในขณะเล่นได้ 4 ระดับครับ
ปรับระบบเพื่อให้เราเล่นเกมได้ตามที่เรากำหนดไว้ เช่นปิดการปรับแสงสว่างหน้าจออัตโนมัติ เพื่อคงความสว่างไว้เท่าเดิมตลอดการเล่น และการป้องกันการแจ้งเตือนที่จะเข้ามารบกวนเราเป็นต้นครับ
ระบบทำมาได้ละเอียด เสริมความน่าเล่นจากความแรงของตัวเครื่อง
หรือใครจะลองใช้งานระบบมัลติวินโดวของ MIUI กับการเล่นเกมก็ได้นะครับ ได้ทั้งเปิดแอพพลิเคชั่นที่สองซ้อนหน้าเกม เพื่อการเปิดหาข้อมูลเกมหรือแชตกับเพื่อนไปพร้อมกันได้
หรือจะเปิดเล่นสองเกมพร้อมกันไปเลยก็ทำได้ครับ ผมก็ไม่รู้ว่าจะมีใครแยกประสาทเล่นได้สองเกมไปพร้อมกันได้บ้าง แต่ถ้าใครอยากจะลอง เจ้าเครื่องรุ่นนี้ก็พร้อมทำให้ได้ และทำได้อย่างประสิทธิภาพด้วย
ผมทดสอบรันสองเกมเล่นไปพร้อมกัน ยังลื่นไหลได้เต็ม 100% ทั้งสองเกมครับ แต่คนเล่นสมองเริ่มบวมแทน เล่นสองเกมไม่ไหว 555
การควบคุมความร้อนและแบตเตอรี่
สิ่งหนึ่งที่ต้องชมคือระบบระบายความร้อนภายใน LiquidCool ของ Mi 11 เครื่องแรงแต่รักษาอุณหภูมิความร้อนได้ เล่นเกมนานๆ ต่อเนื่องเครื่องจะแค่อุ่นๆ ครับ แบตเตอรี่ภายใน 4,600 mAh ใช้งานได้ประมาณ 7 ชั่วโมงสำหรับการเล่นเกมต่อเนื่อง แต่รองรับการชาร์จ Turbo 55W ทดสอบชาร์จแบตจากตัวชาร์จที่แถมมาให้ภายในกล่อง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ได้แบตมาถึง 50% เลยครับ และรองรับการชาร์จแบบไร้สายที่กำลังไฟสูง 50W อีกด้วย
แวะชาร์จไม่นาน ก็กลับมาเล่นเกมได้อีกเต็มวันแล้วครับ
รองรับการเชื่อมต่อ Dual 5G และ WiFi6
สุดท้ายที่ส่งผลสำคัญต่อการเล่นเกมเช่นกัน ก็คือสัญญาณอินเตอร์เน็ต เพราะส่วนใหญ่เรานิยมเล่นเกมออนไลน์กันเป็นหลักครับ และสัญญาณเน็ตก็จำเป็นมากสำหรับใช้ในการเชื่อมต่อ ค่า Ping ที่ต่ำ แบนด์วิดธ์ที่สูง และพื้นที่ครอบคลุมสัญญาณที่กว้างกว่า เจ้า Mi 11 รองรับทุกคลื่นความถี่ในไทย 4G/5G จะอยู่ไหนก็พร้อมจับสัญญาณที่ดีที่สุดในขณะนั้น
และรองรับการเชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi 6 ซึ่งเป็นคลื่นในยุคสมัยต่อจากนี้ไป รองรับความเร็วเน็ตไร้สายระดับทะลุ 1Gbps เทคโนโลยีใหม่ที่สมาร์ทโฟนเราควรจะรองรับ เพื่อการใช้งานให้เข้ากันได้กับเราเตอร์รุ่นใหม่ๆ ที่ปัจจุบันหันมาใช้สัญญาณ Wi-Fi 6 กันเป็นมาตรฐานใหม่เรียบร้อยแล้วครับ
ภาพ เสียง ประสิทธิภาพ การชาร์จพลังงาน การเชื่อมต่อ ทุกข้อของ Mi 11 อยู่ในขั้น 10/10 ประสิทธิภาพการเล่นเกมดีสุดๆ ครับ ลื่นมาก ภาพสวย ภาพเต็มหน้าจอใหญ่ๆ และเสียงดังกระหึ่ม การตอบสนองต่อการสั่งงานเร็วมากๆ ถ้าใครอยากสัมผัสคำว่า “เล่นเกมดีที่สุด” ก็หาลองบน Mi 11 ได้เลยครับ
ราคาและสถานที่จำหน่าย
Mi 11 เปิดจำหน่ายในไทยสองรุ่น
- รุ่น RAM 8 GB + ROM 128 GB ราคา 21,990 บาท วางจำหน่ายบนช่องทางออนไลน์ Lazada, Shopee, JD Central, Thisshop, BaNaNa, Jaymart, TG Fone เท่านั้น
- รุ่น RAM 8 GB + ROM 256 GB ราคา 23,990 บาท วางจำหน่าย ณ Mi Stores และ AIS, Dtac, True, BaNANA, BKK, Kingkong Phone, Jaymart, TG FONE และร้านค้าที่ร่วมรายการ
*ลูกค้าที่ซื้อ Mi 11 จากช่องทางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการของเสียวหมี่ และเปิดใช้งานเครื่องภายในประเทศไทย จะได้รับการรับประกันตัวเครื่องนาน 24 เดือนและการรับประกันคุ้มครองหน้าจอ 12 เดือนไปด้วย (ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.mi.com/global/service/warranty)