Xiaomi เปิดมือถือใหม่ในตระกูล Mi 8 มาอีกสองรุ่นอย่างเป็นทางการ คือ Xiaomi Mi 8 Pro และ Mi 8 Lite (ที่มีข่าวลือว่าจะมีอีกชื่อหนึ่งว่า Mi 8X)
โดย Mi 8 Pro นั้นถูกวางตัวไว้เป็นมือถือที่มีสเป็กและราคาสูงกว่าอีกตัว ซึ่งก็คือเจ้า Mi 8 Explorer ในเวอร์ชั่นขายทั่วโลกนั่นเอง โดยมาพร้อมกับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอรองรับแรงกดสัมผัส แต่เปลี่ยนในส่วนของระบบการปลดล็อกด้วยใบหน้าที่แต่เดิมเป็นแบบการแมพภาพโครงหน้าสามมิติมาเป็นแบบจุดแสงอินฟาเรดหรือ IR แทน พร้อมกับเพิ่มสีใหม่มาอีกสองสี ซึ่งคือสีน้ำเงินและสีทอง และยังคงมีรุ่นฝาหลังโปร่งแสงเหมือนใน Mi 8 Explorer ให้เลือกหากันด้วย
เจ้า Xiaomi Mi 8 Pro นั้นมาพร้อมกับหน่วยความจำหลัก 6GB และ 8GB โดยต่างจาก Mi 8 Explorer ที่มีเพียงรุ่น 8GB เท่านั้น
ในขณะที่สเป็กภายในนั้น เจ้า Xiaomi Mi 8 Pro มาพร้อมกับ Snapdragon 845 และมีหน้าจอขนาด 6.21 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2248 พิกเซล โดยเป็นหน้าจอแบบ OLED และมีพล้องหลังคู่ที่ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/1.8 และ 12MP รูรับแสง f/2.4 ส่วนกล้องหน้านั้นเป็นกล้องเดียวความละเอียด 20MP นั่นเอง
ทางฝั่งของ Xiaomi Mi 8 Lite นั้นมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.26 นิ้วแบบ LCD และใช้หน่วยประมวลผล Snapdragon 660 พร้อมกล้องหลังคู่ความละเอียด 12MP + 5MP และกล้องหน้าความละเอียดดีกว่าที่ 24MP พร้อมแบตเตอร์รี่ความจุ 3,350mAh
อย่างไรก็ตามใน Mi 8 Lite นั้นไม่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอภาพเหมือนอย่าง Mi 8 Pro แต่จะเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือปกติหลังเครื่อง โดยมาพร้อมกับสีแบบทูโทนคือสีน้ำเงินผสานม่วง และสีส้มผสานเหลืองนั่นเอง
สำหรับ Xiaomi ใหม่ทั้งสองรุ่นนั้นจะพร้อมให้จองในวันนี้ ซึ่งคือวันที่ 19 กันยายน 2561 โดย Mi 8 Pro นั้นจะมีราคาเปิดที่ 3,200 หยวน หรือประมาณ 15,150 บาท สำหรับรุ่น 6GB/128GB และราคา 3,600 หยวน หรือประมาณ 17,000 บาทสำหรับรุ่น 8GB/128GB โดยจะพร้อมขายจริงวันแรกคือวันที่ 21 กันยายน 2561 นี้
ส่วน Xiaomi Mi 8 Lite นั้นจะเปิดมาด้วยราคา 1,400 หยวน หรือประมาณ 6,600 บาทสำหรับรุ่น 4GB/64GB และราคา 1,700 หยวนหรือประมาณ 8,000 บาทสำหรับรุ่น 6GB/128GB และ 2,000 หยวนหรือประมาณ 9,500 บาทสำหรับรุ่น 6GB/128GB และจะพร้อมขายจริงในวันที่ 25 กันยายน 2561 นี้
สำหรับราคาและวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยนั้นคงต้องรอทาง Xiaomi ไทยประกาศออกมาอีกครั้ง แต่ทันทีที่มีข่าว เราจะรีบนำมารายงานกันอย่างแน่นอน ติดตาม APPDISQUS เอาไว้ล่ะ